เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 เมษายน นายพงษ์มิตร ประเสริฐสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกนายไมตรี วิริยะ ผอ. ปปส. ภาค 6 นำกำลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปส.ภาค 6 และ อาสารักษาดินแดนจ.พิษณุโลก จำนวนกว่า 100 นาย บุกเข้าจู่โจมตรวจค้นภายในเรือนนอน แดน 5 เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ตามตำสั่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อตรวจค้นหาสิ่งผิดกฏหมาย และโทรศัพท์มือถือ หลังมีนักโทษชาย ได้โพสต์ภาพขณะล่ามโซ่ตรวนลงเฟชบุ๊ก โดยเบื้องต้นในช่วงเช้าได้พบโทรศัพท์มือถือ ของ นช.มาวิน แล้ว แต่ก็ไม่ใช่โทรศัพท์ที่สามารถจะเล่นเฟชบุ๊กได้ ส่วนใหญ่จะใช้ส่งข้อความหาแฟนสาวมากกว่า แล้วแฟนเป็นคนโพสต์ ข้อความให้ ส่วนการส่งภาพพร้อมข้อความในเฟชบุ๊ก ไม่น่าใช้โทรศัพท์ที่พบส่งได้ เบื้องต้นได้ส่งแยกขังนอกแดน 5 เป็นเวลา 3 เดือน พร้อมเพิ่มโทษจำคุกอีก 1 ปี ปรับ 500 บาท เป็นความผิดทางวินัย ซึ่งก็มีชั้นโทษวินัย แต่นี่เป็นนักโทษชั้นเลวเป็นชั้นสูงสุดอยู่แล้ว
สำหรับแดน 5 เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก มีนักโทษชาย ประมาณ 800 คน ขณะที่ผู้คุมมีเพียง 4 คน ทำให้การควบคุมอาจหละหลวมเนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ อีกทั้งเกิดสูญญากาศไม่มี ผบ.เรือนจำ มาประจำอยู่ ทุกวันนี้ เรือนจำจังหวัดพิษณุโลกมีเจ้าหน้าที่อยู่ 78 คน แบ่งเป็นฝ่ายธุรการเกือบครึ่ง ที่เหลือเป็นผู้คุม ที่ต้องเข้าไปดูแลผู้ต้องขังทั้งหมดมี 2,800 คน ยอมรับว่ายากลำบาก แต่ก็ต้องทำ หลังจากที่ตนมารับตำแหน่งก็มีการตรวจค้นต่อเนื่อง โดยมีการขนสิ่งของออกไปจากเรือนนอนเกือบ 10 รถสิบล้อ มีการพบยาไอซ์ ยาบ้า และพบโทรศัพท์มือถือ แต่สำหรับผลการตรวจค้นในวันนี้ ไม่เจอสิ่งผลกฏหมายใด ๆ แต่ก็พบร่องรอยการงัดพื้นปาเก้ เจาะพื้นปูน เป็นช่องสำหรับซุกซ่อนสิ่งของเท่านั้น ขณะที่บรรยากาศภายในห้องขังมีนักโทษอยู่กันอย่างแออัดห้องละกว่า 25 คน
//////