เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 เมษายน 2556 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ขณะนี้ในสังคมออนไลน์ ของจังหวัดพิษณุโลก มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากพบว่า มีคนที่เล่นเฟซบุ๊ค โดยใช้ชื่อว่า “วินเนอร์ กะ คุณนู๋มะยม ” http://www.facebook.com/profile.php?id=100003876007411 ซึ่งในเฟซดังกล่าว มีการโพสต์รูปภาพ เป็นลักษณะคล้ายนักโทษ ที่ยังมีโซ่ตรวนอยู่ที่ข้อเท้า โดยถูกใส่โซ่ตรวนอยู่อย่างแน่นหนา ตามรูปภาพระบุว่า ถูกอัพโหลดจากโทรศัพท์มือถือ และมีการปักหมุดสถานที่ไว้ว่า เป็นที่จังหวัดพิษณุโลก อีกทั้งในเฟซบุ๊คดังกล่าว ยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อความที่โพสล่าสุด คือเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา และขณะนี้จึงทำให้ประชาชนที่ทราบข้อมูลและเห็นภาพนี้ถูกเผยแพร่อยู่ในโชเชี่ยล ต่างตั้งข้อสงสัยว่า หากเป็นนักโทษจริง ทำไมจึงสามารถใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายภาพนี้ได้ ซึ่งเป็นภาพที่อยู่ภายในเรือนจำ เพราะระเบียบก็มีชัดเจนว่านักโทษห้ามใช้หรือมีอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด หรืออีกหนึ่งมุมมองที่มีการตั้งข้อสังเกต ว่าอาจเป็นอดีตนักโทษในเรือนจำ แล้วแอบถ่ายรูปไว้ในมือถือ เมื่อพ้นโทษ ก็นำมาโพสอีกครั้ง สร้างความมึนงง ในโลกสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 27 เมษายน 2556 ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ติดตามหาที่มาของภาพโดยประสานกับ นายพงษ์มิตร ประเสริฐสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้พาสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งผลการตรวจสอบก็พบว่าบุคคลในภาพถ่ายมีตัวตนอยู่จริง และเป็นผู้ต้องขังในคดีข่มขืนกระทำชำเราบุคคลที่มิใช่ภรรยาของตนอง โดยได้ถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 5 ปี โดยถูกคุมขังมาตั้งแต่ปี2551 และกำลังจะพ้นโทษในวันที่ 1 พ.ย นี้ ทราบชื่อบุคคลในภาพคือ นช.มาวิน สมพันธ์วงษ์ อายุ 28 ปี ถูกกักขังอยู่ในแดน 5 ของเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก และเมื่อเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ตรวจสอบเฟชบุ๊คของนักโทษชายมาวิน อีกครั้ง ปรากฎว่าได้ถูกปิดหน้าเฟซบุ๊ค ไม่สามารถเปิดดูได้อีกแล้ว หลังจากช่วงเช้าวันเดียวกันยังเข้าเปิดดูข้อมูลได้อยู่
นายพงษ์มิตร ประเสริฐสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ก็ได้วางมาตรการคุมเข้มเพื่อให้เรือนจำจังหวัดพิษณุโลกเป็นเรือนจำที่ขาวสะอาด ซึ่งได้กำหนดให้มีการบุกจู่โจมตรวจเข้มทุกเรือนนอนเป็นระยะไม่ให้ผู้ต้องขังรู้ตัว จนสามารถ ตรวจค้นยึดยาบ้าได้พันกว่าเม็ด ยาไอซ์จำนวนหลายกรัม อุปกรณ์การเสพ อุปกรณ์สื่อสารจำนวน 1 เครื่อง ส่วนเรื่องการป้องกันการโยนสิ่งของเรือนจำก็มีการตรวจสอบจุดบอดจากนั้นก็ติดตั้งแห หรือ ตาข่าย เพื่อป้องกันการโยนสิ่งของเข้ามาในเรือนจำ โดยที่ผ่านมาก็พบว่ายังมีการลักลอบโยนอุปกรณ์มือถือเข้ามาอีก ในช่วงกลางดึกก็จัดเวรยามตรวจสอบ และกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เรือนจำจ.พิษณุโลกมีอุปกรณ์กวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือจุดย่อย ทำงานกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือเป็นช่วง ๆ แต่ไม่สามารถตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้เลยเหมือนเครื่องตัดสัญญาณของเรือนจำกลางพิษณุโลก
แต่ต้องยอมรับว่าจากที่ต้องดูแลพื้นที่ 45 ไร่ จำนวนผู้ต้องขังที่มีจำนวนมากเมื่อเทียบกับจำนวนของผู้คุม ทำให้การดูแลป้องกันเป็นเรื่องยาก รวมทั้งช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกมีเพียงรักษาการผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ทำให้การปฏิบัติงานค่อนข้างยาก และอาจมีการลักลอบนำสิ่งของทั้ง ยาเสพติด อุปกรณ์สื่อสาร เข้ามาในเรือนจำ แต่หลังจากนี้ก็พยายามวางมาตรการและปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เรือนจำพิษณุโลกเป็นเรือนจำสีขาว โดยต้องตรวจค้นหลายครั้งและต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่ง
ส่วนประเด็นที่ว่า มีผู้ต้องขังลักลอบเล่นเฟซบุ๊คนั้น ขณะนี้ก็ได้ทำการตรวจสอบและจะลงโทษทางวินัย และในช่วงเย็นนี้ก็ได้จัดกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนจำอีกครั้งหนึ่ง