เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 22 เม.ย. 56 พ.ต.ท.อนุศิษฐ์ ปรามีวิศิษฐ์ พงส.ผนพ.สภ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 514/2 ม.5 ต.ป่าแดง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.อ.เผชิญ ตันศิริ ผกก. พร้อมรถดับเพลิงเทศบาลตำบลป่าแดง และรถดับเพลิงหน่วยงานใกล้เคียงจำนวนหลายคันรุดไปที่เกิดเหตุเร่งด่วน
จุดเกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้ชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ ซึ่งเปิดเป็นร้านให้บริหารเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญเครื่องขายน้ำหยอดเหรียญ และบริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ มีเปลวไฟกำลังลุกไหม้อย่างหนักในชั้นล่าง เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำดับเพลิง พร้อมกับสกัดต้นเพลิงไม่ลุกลามขึ้นไปชั้น 2 โดยใช้เวลาร่วมชั่วโมงจึงสามารถสกัดเพลิงสงบลงได้ พบภายในมีเครื่องซักผ้า และเครื่องขายน้ำหยอดเหรียญถูกเพลิงเผาผลาญเสียเกือบหมด โดยมีน.ส.สุจิรา มะลิ อายุ 31 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.แพร่ ได้มาเช่าห้องดังกล่าวเปิดเป็นร้านซักผ้ามาหลายเดือนแล้ว โดยจำหน่ายน้ำดื่มแบบหยอดเหรียญ นอกจากนั้นยังมีบริการเติมโทรศัพท์มือถือ ตลอด 24 ชั่วโมง
น.ส.สุจิรา ให้การว่า ก่อนหน้าที่ตนจะมาเปิดร้านดังกล่าว ได้คบหาเป็นแฟนกับนายพรากร พลนิกร อายุ 37 ปี เป็นคน จ.อุตรดิตถ์ แต่ช่วงหลังได้เลิกรากัน หลังจากตนมาเปิดร้านอยู่ที่ อ.ชาติตระการ นายพรากร ได้ตามมาง้อขอคืนดี แต่ตนได้ปฏิเสธ ทำให้นายพรากรมีความเครียดแค้น และขู่อาฆาตตนเอาไว้ ว่าจะเผาร้านหากตนไม่คืนดีด้วย
น.ส.สุจิรา กระทั่งก่อนเกิดเหตุนายพรากรกลับมาหาตนอีกครั้ง พยายามขอคืนดีกับตนอีก ตนจึงต่อว่าและไล่กลับไป ก่อนที่ตนจะขึ้นไปอยู่บนห้องชั้นสอง ส่วนนายพรากรนั่งเล่นอยู่ชั้นเพียงลำพังคนเดียว เพราะตนต้องเปิดร้านเอาไว้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง กระทั่งเกิดเหตุไฟไหม้ชั้นล่าง มีคนวิ่งเข้าช่วยกันดับ ตนเองได้วิ่งลงด้านได้ทันก่อนไฟจะลุกท่วม ส่วนนายพรากรหลังเกิดเหตุได้หายตัวไปด้วย จึงคิดว่าเป็นการกระทำของนายพรากร
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดต่อหรือตามตัวนายพรากรผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนได้ แต่เบื้องต้นนายพรากรเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด และก่อนเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นล่างคนเดียว ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าจะสามารถติดตามตัวได้ในไม่ช้าว่าเป็นผู้ก่อเหตุวางเพลิงครั้งนี้หรือไม่