วันที่20 เมษายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าราคาทองคำ จะมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่บรรยากาศการซื้อขาย ตามร้านทองในเมืองพิษณุโลก ยังเป็นไปอย่างคึกคัก หลายร้านยังมีประชาชนมาเลือกซื้อทองคำ ทั้งทองรูปพรรณ และทองคำแท่ง เพื่อไว้ใช้ใส่เป็นเครื่องประดับ หรือซื้อเป็นของขวัญมอบให้บุตรหลาน และซื้อเพื่อเก็งกำไร
ที่ร้านทองทรายทอง นายเสกสรร สันติวีระการ เจ้าของร้านเปิดเผยว่า ตั้งแต่สถานการณ์ราคาทองลดลงอย่างมากในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ทำให้มีประชาชนจำนวนมาก ต้องการที่จะซื้อทองในช่วงที่ทองคำราคาลง ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายตามร้านค้า ทุกร้านเป็นไปอย่างคึกคัก และแม้ว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ราคาทองคำ จะมีการปรับขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังต่ำกว่า 2 หมื่นบาท ทำให้จนถึงขณะนี้ ก็ยังมีประชาชนให้ความสนใจมาซื้อทองกันอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์ราคาทองคำ เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา มีการปรับราคาถึง 12 ครั้ง นับว่า มีความผันผวนมาก ปิดราคาขายทองคำแท่ง ที่ราคาบาทละ 19,250 บาท ล่าสุด เช้าวันที่ 20 เมษายน ราคาปรับลดลง 150 บาท ในขณะที่มีหลายฝ่ายออกมาเตือน ทั้งในเรื่องของการซื้อเพื่อเก็งกำไร ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง นอกจากนี้ในส่วนของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ก็เตือนประชาชน ระวังมิจฉาชีพ ฉวยโอกาสนำทองปลอม หรือทองที่ไม่ได้มาตรฐาน มาสวมรอยขายในระยะนี้ แนะนำให้ซื้อกับร้านค้า ที่ได้มาตรฐาน สังเกตได้จาก การติดสลากสินค้าถูกต้องและชัดเจน ซึ่งมี 5 อย่างคือ 1.มีการแสดงราคาขายทองแท่งและทองรูปพรรณของแต่ละวันชัดเจน มีการแสดงราคารับซื้อคืน และมีการแสดงค่ากำเหน็จ ซึ่งค่ากำเหน็จอาจจะไม่ได้ติดที่หน้าร้าน แต่ติดอยู่ในถาด มีป้ายบอกประเภทสินค้าชัดเจนว่าเป็นสร้อย แหวน กำไล มีการระบุชัดเจนว่ามีเปอร์เซ็นต์ทองเท่าไร เช่น 96.5% หรือ 99.99% และที่เนื้อทองคำทุกชิ้นจะต้องมีโลโก้ของโรงงานผู้ผลิต ที่สำคัญคือ ต้องระบุน้ำหนักของทองแต่ละชิ้นให้ชัดเจนด้วย