เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมอมรินทร์ลากูน อ.เมือง จ.พิษณุโลก ดร. ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานเปิดงาน “คาราวานส่งเสริมเด็กไทยให้รักการอ่าน”เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ และวันหนังสือเด็กแห่งชาติ วันที่ 2 เมษายน
ซึ่งดร. ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22กุมภาพันธ์ 2548 เห็นชอบให้วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี เป็นวันหนังสือเด็กแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจ และพระเกียรติคุณด้านการศึกษา ผู้ทรงพระปรีชาทางด้านอักษรศาสตร์ และทรงสนพระราชหฤทัยด้านการส่งเสริมการอ่านของเด็กและเยาวชนมาโดยตลอด
ภายในงาน มีกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การเล่านิทาน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการตามวัยเด็ก รวมทั้งการเสวนา และอภิปรายเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย มี ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหาร ครู ผู้ดูแลเด็ก พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และเด็กปฐมวัย สนใจเข้าร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ มีผลการวิจัยเกี่ยวกับการอ่านหนังสือของคนไทยว่า สถิติลดลงทุกปี และน้อยกว่าหลายประเทศในอาเซียน สำนักงานส่งเสริมการศึกษาและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน. ได้ออกมาบอกว่าเด็กไทยอ่านหนังสือ 2-5 เล่มต่อปี ในขณะที่มีกระแสข่าวตามโซเชียลเน็ตเวิร์ค เมื่อปี 2555 ถึงสถิติการอ่านหนังสือของคนไทย ว่า คนไทยอ่านหนังสือ ปีละไม่เกิน 8 บรรทัด อย่างไรก็ตาม หลายภาคส่วน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว และได้มีการรณรงค์ส่งเสริม ให้คนไทยหันมาอ่านหนังสือมากขึ้น เช่นเดียวกับ การจัดงาน “คาราวานส่งเสริมเด็กไทยให้รักการอ่าน” ที่มุ่งเน้นปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน ตั้งแต่วัยเด็ก
อย่างไรก็ตามคาราวานที่จัดขึ้นที่ จ.พิษณุโลก นับเป็นครั้งแรกที่ออกสู่ต่างจังหวัด ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นนี้ต้องการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ฝึกให้เด็กคิดช่วยเหลือตัวเอง และลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง การที่ดึงผู้ปกครองมาด้วยเพื่อให้ผู้ปกครองเห็นและทราบว่าการโอบอุ้มด้วยการไม่ให้เด็กทำอะไร ช่วยป้อนข้าวป้อนน้ำให้นั้น เป็นพฤติกรรมที่พ่อแม่ควรหยุดทำ เพราะเป็นการส่งเสริมเด็กแบบผิดๆ อาจเรียกว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” และหลังจากจัดกิจกรรมที่ จ.พิษณุโลกแล้ว คาราวานจะประเมินผลแล้วเดินทางไปเปิดคาราวานในหัวเมืองหลัก ๆ เป้าหมายอีก 11 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้
//////