ที่หมู่ 8 ตำบลหินลาด อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เกษตรกรชาวสวนที่ปลูกมะม่วงเพื่อส่งออก ต้องนำผลมะม่วง มาตั้งเพิงวางขายริมถนน เนื่องจากขณะนี้ สวนมะม่วงกำลังได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อน และแห้งแล้ง อย่างหนัก ผลผลิตเสียหาย ไปกว่าครึ่ง ไม่สามารถส่งออกได้
นางสถาพร น้อยนาค อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 8 ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนเองทำสวนมะม่วงเพื่อการส่งออก ประมาณ 30 ไร่ โดยปลูกมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ มะม่วงฟ้าลั่น และมะม่วงเขียวเสวย ตลาดส่งออกที่สำคัญคือ ประเทศเวียดนาม ซึ่งผลมะม่วงที่จะส่งออกได้ จะต้องมีขนาดผลประมาณผลละ 600 กรัม หรือ 2 ลูกกิโลกรัม แต่ปรากฏว่าในปีนี้ สวนมะม่วงของตนเอง ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงนาน ต้นมะม่วงขาดแคลนน้ำ และสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ไม่ติดลูก อีกทั้งผลที่ได้ ยังมีขนาดเล็กลง เหลือเพียงผลละ 200 – 300 กรัมเท่านั้น ทำให้ในปีนี้ ไม่สามารถส่งออกมะม่วงไปยังประเทศเวียดนามได้
นางสถาพร ยังได้กล่าวอีกว่า เมื่อปี 2554 ที่สวนของตนเองส่งมะม่วงเขียวเสวย เข้าประกวดในงาน พิษณุโลกเมืองสารพันเกษตร ครั้งที่ 5 ได้รางวัลชนะเลิศ รับเกียรติบัตร จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ในปีนี้ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ภัยแล้ง และอากาศร้อน ทำให้ผลมะม่วงไม่ได้ขนาด ไม่สามารถส่งออกได้ ซึ่งสวนมะม่วงอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียง ก็ประสบปัญหาอย่างเดียวกัน เมื่อมะม่วงออกผลมา และไม่สามารถส่งออกได้ ชาวสวนจึงต้องมาตั้งเพิงขายให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ริมถนนสาย วัดโบสถ์ – ชาติตระการ โดยราคาขายมะม่วง อยู่ที่กิโลกรัมละ 20 – 30 บาท เท่านั้น