วันนี้(17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาวะอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ลำน้ำเข็กที่ถือเป็นแหล่งกำเนิดของแมงกะพรุนน้ำจืด และเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์อันซีนไทยแลนด์ โดยในทุกปีเมื่อถึงช่วงเวลาช่วงเดือน มีนา เมษายน และช่วงพฤษภาคม บรรดาแมงกะพรุนน้ำจืดจะออกมาให้ชาวบ้านได้ยลโฉม แต่จะมีเฉพาะในลำน้ำเข็ก เท่านั้น โดยเฉพาะ บ้านแก่งกระจิบ ม.12 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ชาวบ้านจะเห็นแมลงกระพรุนน้ำจืดเป็นประจำทุกปี และจะมีมากในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง บ้านหนองแม่นา
แมงกะพรุนน้ำจืดได้เริ่มค้นพบในจังหวัดพิษณุโลกเมื่อปี 2548 ที่บริเวณแก่งท่าเดื่อ บ้านเข็กพัฒนา ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ริมทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก กม.73-74 นั้น และบริเวณน้ำตกแก่งโสภา บริเวณ กม.ที่ 71-72 น้ำตกชั้นที่ 2 ที่เป็นแอ่งรับน้ำจากน้ำตกสูง 10 เมตร ที่พบว่า ตามแอ่งน้ำนิ่งต่าง ๆ มีแมงกะพรุนน้ำจืดขนาดโตเต็มไวผุดว่ายขึ้นมาจำนวนมาก โดยหลังจากค้นพบที่บ้านเข็กพัฒนาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2548 ชาวบ้านเข็กพัฒนา ได้เฝ้าติดตามการขึ้นผุดว่ายของแมงกะพรุนน้ำจืดมาอย่างต่อเนื่องมาทุกปี โดยจะเริ่มให้เห็นในช่วงเดือนมีนาคม ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนเมษายน ชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่า “แมงอีหยิบ”ตามลักษณะพฤติกรรม”หยุบเข้า หยุบออก”ของมันขณะกำลังว่ายน้ำ
ล่าสุดในวันนี้ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ตามค้นหาแมงกะพรุนพบว่าในปีนี้แมงกะพรุนน้ำจืด และพบว่าเริ่มมีไข่แมงกะพรุนน้ำจืด จำนวนมากที่กำลังรอฟักตัวอยู่ตามโขดหิน ที่บริเวณแก่งท่ามะเดื่อ หมู่ 12 ต.บ้านแยง ซึ่งถือว่าปีนี้มีไข่จำนวนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เชื่อว่าอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือ ต้นเดือนเมษายน ก็น่าจะได้เห็นแมงกะพรุนน้ำจืดฟักเป็นตัวว่ายลอยอวดโฉมตามแหล่งน้ำเข็ก หากไม่มีฝนตกลงมาอีก
นายทรงเผ่า ราชวังศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.บ้านแยง กล่าวว่า สาเหตุที่แมงกะพรุนน้ำจืดฟักตัวช้าน่าจะมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เพราะมีทั้งฝนและอากาศที่ร้อนจัด จึงทำให้ไข่มีการฟักตัวช้า เพราะโดยปกติในช่วงนี้อากาศที่นี่จะมีความร้อนสูง แต่ปีนี้กลับมีฝนสลับไปมา จึงทำให้การฟักตัวของแมงกะพรุนน้ำจืดนั้นล่าช้าลง.