จากเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุล่อลวง นายอำพล วรรธนะพินทุ พ่อเฒ่าวัย 80 ปี แล้วก่อเหตุชิงทรัพย์กระเป๋าเงินของนายอำพลไป เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 6 มีนาคม 2556 ที่ริมถนนมิตรภาพ ใกล้กับสะพานข้ามคลองโคกช้าง ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว ชุดสืบสวนสภ.เมืองพิษณุโลก ภายใต้การอำนวยการของภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ท.ทัพพ์เศรษฐ์ เขื่อนแก้ว รองผกก.สส.พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปริญญา ทองมา สว.สส.สภ.เมืองพิษณุโลก สามารถจับกุมคนร้ายผู้ก่อเหตุได้คือ นายสมบัติ อ่อนหมวกดี อายุ 61 ปี ที่อยู่ 88 หมู่ 5 ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2556 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งว่ามีเหตุ วิ่งราวทรัพย์ เหตุเกิดที่ ริมถนนมิตรภาพ สะพานโคกช้าง หมู่ 7 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่ง คนร้ายมีตำหนิรูปพรรณ เป็นชายไทย รูปร่างผอมสูง อายุประมาณ 60 ปี ผมสั้น ขับขี่รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน ต่อมาช่วงเย็นของวันที่ 14 มีนาคม 2556 ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ออกสืบสวนหาข่าว พบ นายสมบัติฯ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ดรีม มีตำหนิรูปพรรณตามที่ได้รับแจ้งว่าคือคนร้าย จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำ ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก โดย นายสมบัติ อ่อนหมวกดี ขอให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2556 เวลาประมาณ 11.00 น.ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ดรีม สีน้ำเงิน ทะเบียน กกก 164 พิษณุโลก(ป้ายเหลือง) มาหาเพื่อนที่อยู่บริเวณ สถานีรถไฟจังหวัดพิษณุโลก แต่ว่าไม่พบเพื่อน และได้พบกับ นายอำพล วรรธนะพินทุ ผู้เสียหาย ซึ่งอยู่บริเวณสถานีรถไฟจังหวัดพิษณุโลก จึงเข้าไปพูดคุยกับ นายอำพล และนายอำพล ได้ให้ไปส่ง ที่ บ้านของนายอำพลฯ ที่อยู่หมู่บ้านเอื้ออาทรหัวรอ จ.พิษณุโลก จึงพานายอำพล ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ออกจาก สถานีรถไฟจังหวัดพิษณุโลก มุ่งหน้า ไปหมู่บ้านชินลาภ และจะวิ่งเส้นทางเลี่ยงเมือง โดยที่ไม่ได้ผ่านตัวเมือง เมื่อมาถึงบริเวณ แยกโคกช้าง นายอำพลฯ มีลักษณะท่าทางเหมือนจะเป็นลม จึงจอดรถจักรยานยนต์ และให้ นายอำพลนอนพัก เมื่อนายอำพลได้นอน
นายสมบัติ เผยต่อว่า เมื่อได้เห็นกระเป๋า สตางค์ หนังสีน้ำตาล อยู่ในกระเป๋ากางเกง ของนายอำพล จึงเกิดความอยากได้ จึงได้หยิบกระเป๋าสตางค์ดังกล่าว ออกจาก กระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างซ้าย ของนายอำพล และก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยปล่อยให้นายอำพลฯ นอนอยู่ในที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุลักกระเป๋าสตางค์มาได้ ได้เปิดกระเป๋าสตางค์ดู พบว่า ภายในมีเงินสด จำนวน 6,000 บาท เป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 3 ใบ,ธนบัตรใบละ 500 บาท จำนวน 6 ใบ จึงได้นำเงินดังกล่าวไปใช้สอยส่วนตัว และกระเป๋าสตางค์ ได้โยนทิ้งแม่น้ำที่แยกโคกช้าง หลังก่อเหตุก็ยังคงอยู่ในเขตตัวเมืองพิษณุโลกกระทั่งถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งข้อหา“ ลักทรัพย์ โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าอันมีลักษณะวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” และหลังจับกุมตัวได้ ได้นำผู้ต้องหาไปให้ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน นายสมบัติ ผู้ต้องหาสารภาพผิด และก้มลงกราบขอขมาพ่อเฒ่าอำพล
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งข้อหา“ ลักทรัพย์ โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าอันมีลักษณะวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” และหลังจับกุมตัวได้ ได้นำผู้ต้องหาไปให้ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน นายสมบัติ ผู้ต้องหาสารภาพผิด และก้มลงกราบขอขมาพ่อเฒ่าอำพล