เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันนี้( 14 มี.ค.) ที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษรุโลก พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมทำพิธีเปิดเปิดศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง พร้อมทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้ ป้องกันและบรรเทาการเกิดไฟป่า เติมน้ำให้กับแหล่งน้ำธรรมชาติ เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ จ.พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ โดยมีเครื่องบินในการปฏิบัติหน่วยฝนหลวง เป็นเครื่องบิน CASA ของกระทรวงเกษตรฯ จำนวน 2 เครื่อง เครื่องบิน c 130 ของกองทัพอากาศอีก 1 เครื่อง นักบิน และเจ้าหน้าที่จำนวน 10 นาย ในการปฏิบัติหน้าที่ทำฝนหลวงให้พี่น้องเกษตรกรที่ร้องขอ วันหนึ่งจำนวน 2 รอบ คือ รอบเช้าและรอบบ่าย จำนวน 2,000 ก.ก.
นายพิจิตร ธีระเสถียร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงขึ้น เพื่อปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 10 หน่วย ทั่วประเทศ โดยเน้นเป้าหมายในการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนเก็บน้ำต่างๆ และช่วยเหลือสถานการณ์ภัยแล้ง ดูแลปัญหาไฟป่าและหมอกควันในภาคเหนือตั้งแต่เดือนมี.ค.ไปจนถึงสิ้นสุดฤดูฝนประมาณเดือนต.ค.นี้พร้อมทั้งทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตรยังได้ตั้งอาสาสมัครฝนหลวงเป็นเครือข่ายการประสานข่าวสารข้อมูลกระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงประชาชนยังสามารถขอฝนหลวงในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งมายัง คอลเซ็นเตอร์ 1170 ของกระทรวงเกษตรฯ โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก จะดูแล 7 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ที่ประสบภัยแล้ง ในส่วนของจังหวัดพิษณุโลก มีพื้นที่ประกาศภัยแล้งแล้ว ทั้ง 9 อำเภอ และมีประชาชนที่ต้องการฝนหลวง เพื่อทางการเกษตรในทุกพื้นที่ ทางหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงก็จะจัดทำแผนในการบินทำฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือต่อไป
โดยหลังจากมีพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ทางหน่วยฯ ได้นำสารเคมีทำฝนหลวง จำนวน 800 ก.ก. ไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และรอยต่อ จ.พิจิตรและ เพชรบูรณ์ หลังจากมีประชาชนจำนวนกว่า 400 หลังคา ร้องขอ เนื่องจากแหล่งน้ำทางธรรมชาติแห้งขอด ไม่มีน้ำทางการเกษตรต่อไป
/////