วันที่ 11 มีนาคม 2556 ชาวบ้าน หมู่ 11 บ้านแก่งเจ็ดแคว ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ พิษณุโลกจำนวน 10 คน นำโดยนายครรชิต จูจันทร์ ปลัดอำเภอวัดโบสถ์,นายบัญชา บุญอเนก ส.อบต.บ้านแก่งเจ็ดแควและ จ.ส.อ.บุญส่ง สุดใจ รองนายกอบต.บ้านยางเดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเพื่อเรียกร้อง ขอถนนลาดยาง หลังจากโครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อันเนื่องมาจากพระราชดำริก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่กลับไม่ดำเนินการสร้างถนนลาดยางให้ สร้างแต่เพียงถนนรอบอ่างเก็บน้ำ เข้าสู่หมู่บ้านระยะทาง 22 กิโลเมตร แต่เป็นแค่ถนนลูกรัง ที่ขณะนี้สภาพชำรุดทรุดโทรม เต็มด้วยฝุ่น ก้อนหินขนาดใหญ่ และเลนโคลนในหน้าฝน จึงรวมตัวกันมาเรียกร้องให้ผวจ.พิษณุโลกช่วยดำเนินการแก้ไขให้ โดยนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้เชิญตัวแทนประชาชน ต.บ้านยาง เข้าไปคุยในห้องจำนวน 3 คน
นายบัญชา บุญอเนก สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านยาง กล่าวว่าตนและลูกบ้านเดินมามาวันนี้ เพื่อพบผู้ว่าฯให้ช่วยเหลือด้านคมนาคมช่วยทำถนนลาดยางสักที ปัจจุบันประชาชนบ้านแก่งเจ็ดแคว เดือดร้อนจากการใช้ถนนสัญจรระยะทางยาวกว่า 22 กิโลเมตร ที่เต็มไปด้วยฝุ่น หลุม และโคลน
นายบัญชา เผยต่อว่า จากเดิม ก่อนการสร้างเขื่อนแควน้อยฯ ชาวบ้านแก่งเจ็ดแควมีเส้นทางเดิมผ่านทางแก่งเจ็ดแคว ระยะทางจากบ้านนาขาม ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์เข้าสู่บ้านแก่งเจ็ดแควระยะทางเพียง 7 กิโลเมตร แต่เมื่อสร้างเขื่อนแควน้อย เส้นทางเดิมถูกน้ำในอ่างเก็บน้ำท่วม ก่อนการสร้างเขื่อน นายชูชาติ ฉุยกลม ผอ.โครงการก่อสร้างเขื่อน ก็มารับปากกับชาวบ้านว่า จะสร้างถนนลาดยางรอบอ่างเก็บน้ำ เข้าสู่หมู่บ้านแก่งเจ็ดแควให้ใหม่ และได้ตัดถนนใหม่ รอบอ่างเก็บน้ำเข้าสู่หมู่บ้าน ระยะทาง 22 กิโลเมตร แต่ทำเพียงถนนลูกรังเท่านั้น ประชาชนมีความลำบากมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมเพิ่งมาเรียกร้อง ทั้งๆเขื่อนแควน้อยก่อสร้างไปเสร็จหลายปี จ.ส.อ.บุญส่ง สุดใจ บอกว่าช่วงก่อนชาวบ้านและตนก็มั่นใจ ผอ.เขื่อนแควน้อยเป็นคนรับปากน่าจะสร้างได้ แต่เวลาผ่านล่วงเลยมา ก็ไม่เห็นความคืบหน้าไปทวงสัญญาที่เขื่อนแควน้อย ก็บอกเพียงว่า โครงการงานก่อสร้างเขื่อนไม่เกี่ยวส่วนงานบำรุงรักษาเขื่อนแควน้อยก็โยนไปว่าเป็นส่วนของโครงการงานก่อสร้างเขื่อนฯ ทำให้ตนต้องมาพึ่งผู้ว่าฯ
ยอมรับจริงๆว่า สมัยก่อน ชาวบ้านไม่สนใจถนน เพราะมัวแต่ สนใจเงินค่าชดเชยที่ดินเวนคืนไร่ละ 12,000 บาทเพื่อทำเขื่อนแควน้อยฯ แต่วันนี้คนบ้านยางที่เสียสละที่ดินไปเพื่อคนส่วนใหญ่ กลับได้รับความเดือดร้อน
นายครรชิต จูจันทร์ ปลัดอำเภอวัดโบสถ์ เปิดเผยหลังพูดคุยกับผู้ว่าฯ ประมาณ 30 นาที เบื้องต้น ผู้ว่าฯได้ต่อสายทางโทรศัพท์ไปถึงหน่วยงานสำนักทางหลวงชนบทหรือ รพช.เดิม ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับงานสร้างถนนว่าจะเข้าไปสำรวจงานสร้างถนน แต่บอกว่า ไม่สามารถทำถนนได้ตลอดระยะทาง 22 กิโลเมตร อาจจะทำได้เพียง 2-3 กิโลเมตรไปก่อนช่วงที่ถนนลาดชันรถชาวบ้านไปไม่สามารถขั้นหรือสัญจรได้สะดวก ก็ทำให้ชาวบ้านพอใจระดับหนึ่ง
แสดงความคิดเห็น