ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายสง่า ดามาพงษ์ ผู้จัดการโครงการโภชนาการสมวัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า การจัดอาหารกลางวันภายใต้งบประมาณ13 บาทที่รัฐบาลมอบให้ คุณภาพอาหารจะต่ำกว่ามาตรฐานโภชนาการ ไม่สามารถจัดเมนูผัก และผลไม่ได้ ส่วนเนื้อสัตว์จะได้ปริมาณน้อย
ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่โรงเรียนวัดห้วยดั้ง หมู่ 10 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ในโครงการอาหารกลางวัน พบว่า ในวันนี้ 7 มีนาคม 2556 ทางโรงเรียน มีรายการอาหารสำหรับเด็ก คือ ต้มพะโล้ใส่ฟัก โดยทางแม่ครัว จะตักใส่ถาดหลุม แจกให้นักเรียนเป็นรายคน ซึ่งต้มพะโล้ในถาด จากภาพที่เห็น คือ เป็นต้ม ที่มีชิ้นฟัก หั่นบาง ๆ ประมาณ 2 -3 ชิ้น เนื้อหมู ติดกระดูก ชิ้นบาง ๆ อีก 2 ชิ้น ที่เหลือเป็นน้ำต้ม กับข้าวสวย
นายอำนวย ทองคำนุช ครูชำนาญการพิเศษ ของโรงเรียน ได้เปิดเผยว่า งบประมาณอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน นักเรียนได้รับเป็นรายหัว รายละ 13 บาท ต่อวัน ทั้งปีการศึกษา โรงเรียนได้รับการอุดหนุนแบบเหมาจ่าย 200 วัน โดยทางโรงเรียน มีนักเรียนที่ได้รับเงินจากโครงการอาหารกลางวัน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประมาณ 200 คน ซึ่งงบประมาณที่ได้ ต้องนำมาใช้ตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบ และจ้างแม่ครัวประกอบอาหาร ยอมรับว่างบประมาณที่ได้ไม่เพียงพอ ที่จะจัดทำอาหารให้นักเรียนได้ครบตามหลักโภชนาการ
แต่ทางโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามช่วยเหลือตนเอง ใช้พื้นที่ว่างของโรงเรียนปลูกผักสวนครัว อาทิเช่น คะน้า กวางตุ้ง บวบ มะเขือ รวมทั้งทำบ่อเลี้ยงปลา เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารกลางวันให้กับนักเรียน