พระพุทธรูปหาย ผอ.อ้างไม่สวยยกให้คนอื่นไปแล้ว

DSC_0171เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 56 พระครูวินัยธรเงิน ปัญญาคโม เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านห้วยน้ำดี หมู่ 7 ต.ท่าสะแก อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ปัจจุบันไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดศรีเจริญวงขร ม.6 ต.ท้ายคา อ.วังโปร่ง จ.เพชรบูรณ์  ได้เดินทางเข้าตรวจสอบพระพุทธรูปที่มอบให้กับโรงเรียนบ้านห้วยท้องฟาน ม. 8 ต.ท่าสะแก อ.ชาติตระการ หลังจากได้มอบพระพุทธรูปให้กับทางโรงเรียน เพื่อนำใช้ในการประกอบศาสนกิจทางศาสนา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้กราบไหว้สวดมนต์ ในช่วงเช้าเข้าแถวหน้าเสาธง ตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค จึงได้มอบให้กับทางโรงเรียนบ้านห้วยท้องฟาน แต่ภายหลังทราบว่าพระพุทธรูปทองเหลือง ปางขัดสมาธิ ขนาดหน้าตัก 38 นิ้ว ได้สูญหายไป จึงได้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงDSC_0210

 

พระครูวินัยธรเงิน  เปิดเผยว่า ช่วงที่อาตมาอยู่ที่วัดสำนักสงฆ์ห้วยน้ำดี ทางโรงเรียนได้ขอพระพุทธรูปผ่านทางอาตมา เพื่อนำมาให้นักเรียนกราบบูชาตามหลักศาสนาพุทธ โดยจะนำไปตั้งที่หน้าเสาธงโรงเรียนบ้านห้วยท่องฟาน  โดยช่วงปี 2547 มีโยมจาก จ.สระบุรี เป็นเจ้าภาพนำพระพุทธรูปเนื้อทองเหลืองปางสมาธิหน้าตัก 38 นิ้ว มาถวายผ่านอาตมา เพื่อนำมามอบให้กับทางโรงเรียนห้วยท้องฟาน ซึ่งราคาหลายหมื่นบาท  ต่อมาปี 2555 อาตมาได้นำพระพุทธชินราชจำลอง เนื้อทองเหลือง หน้าตัก 36 นิ้ว มามอบให้กับโรงเรียนห้วยท้องฟานอีกองค์ กระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาอาตมาทราบข่าวว่า พระพุทธรูปที่นำมามอบให้กับทางโรงเรียนได้หายไป จึงต้องเดินทางมาสอบถามกับผู้บริหารว่าพระพุทธรูปหายไปไหน เนื่องจากทราบว่าคณะครูภายในโรงเรียนไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นDSC_0235

 

หลังจากพระครูวินัยธรเงิน พร้อมคณะสงฆ์จำนวนหนึ่งเดินทางมาถึงโรงเรียนบ้านห้วยท้องฟานได้เข้าไปตรวจสอบภายในโรงเรียน โดยมีครูนำตรวจสอบตามห้องต่างๆ อาทิ ห้องศาลากลางน้ำ ห้องสมุด และหอประชุมโรงเรียน ที่เคยนำพระพุทธรูปมาตั้งไว้  แต่ไม่พบพระพุทธรูป องค์ขนาดหน้าตัก 38 นิ้ว  มีเพียงพระพุทธรูปหน้าตัก 36 นิ้ว ที่ตั้งอยู่หน้าเสาธงเพียงองค์เดียวเท่านั้น  ต่อมานายสมชัย ทองปลิว ผู้อำนวยการโรงเรียนห้วยทองฟาน ได้เดินทางมาพบพระครูและคณะสงฆ์  ซึ่งทางพระครูได้สอบถามหาพระพุทธรูปที่นำมามอบให้โรงเรียนขนาดหน้าตัก 38 นิ้ว หายไปไหนDSC_0237

 

นายสมชัย ทองปลิว กล่าวว่า ตนมารับตำแหน่งปีกว่า ช่วงที่มารับตำแหน่งใหม่ๆไม่ทราบว่าใครบริจาคพระพุทธรูปมาให้โรงเรียน ประกอบกับพระพุทธรูปองค์แรกไม่สวย เพราะไม่มีซุ้มเรือนแก้ว ตนอยากได้พระพุทธชินราชที่มีซุ่มเรือนแก้ว  จึงได้เก็บองค์ที่มีซุ้มเรือนแก้วไว้เพียงองค์เดียวที่หน้าเช้าเสาธง เพื่อให้เด็กกราบไหว้  ส่วนองค์ขนาด 38 นิ้ว ตนเห็นตั้งอยู่กับพื้นไม่ได้ใช้ประโยชน์  จึงได้ยกให้ทางนายกสมาคมครูผู้บริหารโรงเรียนบ้านสวนเมี่ยงไป แต่ยอมรับว่าไม่ได้แจ้งให้ใครทราบ และไม่ได้บอกกับพระครูที่เป็นผู้บริจาค  เพราะตนไม่ทราบว่าพระพุทธรูปเป็นของใคร เห็นว่าเป็นสมบัติโรงเรียนจึงยกให้ไป  จึงกราบขอโทษพระครูด้วย เพราะยกพระพุทธรูปให้กับทางโรงเรียนสวนเมี่ยงไปแล้วDSC_0172

ด้านพระครู ได้กล่าวตำหนิกับ ผอ.สมชัยว่า  รู้สึกผิดหวัง เสียความตั้งใจ เพราะเห็นความต้องการของโรงเรียนที่ขอพระพุทธรูปมา เพื่อให้เด็กกราบไหว้น่าเสาธง อาตมาจึงแจ้งญาติโยมที่ใจบุญนำมาบริจาคให้กับโรงเรียนห้วยท้องฟาน  ส่วนพระพุทธรูปทองเหลือง มูลค่า 68,000 บาท มามอบให้ด้วยใจ แถมเสียเงินค่าขนส่ง จาก จ.เพชรบูรณ์ มาที่ จ.พิษณุโลก ไม่เคยขออะไรจากโรงเรียน เพราะเห็นว่าห่างไกลความเจริญ และทุรกันดาร ถ้าโรงเรียนมีอะไรให้เด็กยึดเหนี่ยวไว้ก็จะดี แต่กลับถูกมองไม่เห็นคุณค่า ถ้าทางโรงเรียนแจ้งมาทางวัดว่าไม่อยากเก็บไว้ไม่มีที่วาง หรือเห็นเกะกะก็มาคืนไว้ที่วัดได้ ไม่ใช่เอ่ยปากขอมา แล้วมาทำแบบนี้ ทำให้เสียความรู้สึก อีกทั้งผิดเจตนารมณ์ของผู้บริจาคที่ตั้งใจมอบพระให้กับทางโรงเรียนนี้ไว้ใช้ประโยชน์ หากจะมอบให้กับใครต่อ ควรจะสอบถามคณะครู หรืออาตมาที่นำมาบริจาคเป็นสมบัติของโรงเรียนบ้านห้วยท้อง ไม่ควรทำโดยพละการ น่าจะรักหวงแหนทรัพย์สินที่มอบให้กับโรงเรียน

 

แสดงความคิดเห็น