เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 4 ม.ค. 2556 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 พร้อมด้วยพล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สะอาดพรรค รองผบช.ภ.6 พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ได้ผู้ต้องหาจำนวน 7 ราย ได้แก่ น.ส.ชัญญา หรือเจี๊ยบ โตสิษฐ์นานพ น.ส.อรินชญา หรือก้อย สุริยวงศ์ และน.ส.นิตยา หรือจอย เดชสุภา พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 607 เม็ด นายธเนศวร หรือจ๊อบ เพ็ญสุวภาพ อายุ 31 ปี นายชัย ชัย หรือป๊อบ กะหมาย และน.ส.อรวรรณ หรือบี มั่นเกตุ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 80,000 เม็ด ยาไอซ์ 4.589 กิโลกรัม ทั้ง 5 รายแรกมีภูมิลำเนาอยู่จ.พิษณุโลก และนายสุรชาติ แซ่วะ ชาวจ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า 40,000เม็ด ซึ่งรวมของกลางทั้งหมด ยาบ้า 120,607 เม็ด ยาไอซ์ 4.859 กิโลกรัม รวมมูลค่า 30 ล้านบาท
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก พ.ต.อ.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก ได้สืบทราบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในเขตพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก และสืบทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวเป็นกลุ่มเครือข่ายของนายอำนาจ นุชชม ผู้ต้องหาคดียาเสพติดในเรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก จึงได้ส่งสายลับติดต่อล่อซื้อยาเสพติดจาก น.ส.ชัญญา และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 รายพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 607 เม็ด และได้ทำการขยายผลการจับกุมนายธเนศวร พร้อมพวกได้ที่หอพักลีออง ถนนธรรมบูชา ซอย 7 ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 80,000เม็ด ยาไอซ์จำนวน 4.859 กิโลกรัม พร้อมอุปกรณ์การแบ่งยาเสพติดและอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง จากนั้นได้ทำการขยายผลการจับกุมนายสุรชาติ แซ่วะ ซึ่งเป็นพนักงานบนรถทัวร์โดยสารจาก จ .เชียงราย-กรุงเทพฯ ได้ซุกซ้อนยาบ้ามามากับรถทัวร์เพื่อส่งให้กับนายธเนศวร อีกจำนวน 40,000 เม็ด
จากการสอบสวนนายธเนศวร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองมีหน้าที่รับคำสั่งจากนายอำนาจ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอยู่ในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ว่าจะมีคนนำยาบ้ามาทิ้งไว้ที่ใดเมื่อทำการนัดและนายธเนศวร ก็จะไปรับยาบ้านำมาเก็บไว้ที่หอพักและรอคำสั่งว่าจะทำการจัดแบ่งยาบ้าที่นำมาให้กับลูกค้าคนใด ซึ่งตนเองจะได้รับค่าจ้างจากจำนวนยาบ้าดังกล่าวในราคา มัดละ 5,000 บาท แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองและจำหน่าย พร้อมทั้งจะได้ติดตามขยายผลหาตัวเอเยนต์รายใหญ่ในเรือนจำกลางต่อไป