วันที่ 28 มกราคม 2556 นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เทศบาลนครพิษณุโลก ได้ยกเลิกการจัดงานแต่งงานตามประเพณีไทย ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556ไปแล้ว โดยแจ้งคณะกรรมการจัดงานที่ได้เตรียมงานจัดงานไปบ้างแล้ว และคู่บ่าวสาวจำนวน 9 คู่ ที่สมัครร่วมงานแต่งงานกับเทศบาลนครพิษณุโลกในปีนี้ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา
นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เผยต่อว่า การยกเลิกการจัดงานแต่งงานตามประเพณีไทยในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2556 ที่เทศบาลนครพิษณุโลกได้จัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 4 ปีแล้วนั้น สืบเนื่องจาก หนังสือเวียนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ส่งหนังสือเวียนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ยกกรณี สตง. เข้าตรวจสอบการใช้งบประมาณของเทศบาลนครนนทบุรี ในการจัดงานแต่งงานตามประเพณีไทยเมื่อปี 2553 และได้ข้อสรุปในปี 2555 ใจความความหนังสือเวียนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สรุปได้ว่า การที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำงบประมาณมาใช้ในการจัดงานแต่งงานตามประเพณีไทยนั้น เป็นการใช้งบประมาณที่ผิดระเบียบ กล่าวคือ การจัดงานดังกล่าวสาธารณะไม่ได้รับประโยชน์ ผู้ได้รับประโยชน์มีเพียงคู่บ่าวสาวและญาติเท่านั้น
นายบุญทรง เผยต่อว่า ในปี 2556 เทศบาลนครพิษณุโลกได้ตั้งงบประมาณจำนวน 300,000 บาท เพื่อจัดงานแต่งงานตามประเพณีไทย เหมือนที่จัดเป็นประจำทุกปี แต่หลังจากได้รับหนังสือเวียนจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งมาถึงการจัดงานลักษณะดังกล่าว จึงต้องยกเลิกการจัดงานไป และได้แจ้งคู่บ่าว-สาวที่มาสมัครแล้วจำนวน 9 คู่ ถึงสาเหตุที่ต้องยกเลิกการจัดงานในปีนี้ออกไป เพราะการจัดงานของเทศบาลนครพิษณุโลก เป็นการจัดงานที่ใช้งบประมาณของรัฐ ขณะที่จังหวัดใหญ่ ๆ ที่จัดงานสมรสหมู่ในช่วงเทศกาลแห่งความรัก เช่น วิวาห์ใต้สมุทร ที่จ.ตรัง ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศนั้น เป็นการจัดงานที่มีสปอนเซอร์สนับสนุน
สำหนับหนังสือเวียนที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ส่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ถึงกรณีการใช้งบประมาณของท้องถิ่นเข้าไปจัดงานสมรสหมู่ หรือ แต่งงานตามประเพณีไทย ในช่วงเทศกาลแห่งความรักนั้น มีจำนวน 6 หน้านั้น นายแก่นเพชร ช่วงรังษี อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้
สำนักงานการตรวจเงินแผนดินเห็นว่า อำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้อถิ่น ในการส่งเสริมและบำรุงรักษา ศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น จะต้องเป็นการให้ประโยชน์ หรืออำนายความสะดวกแก่ประชาชนเป็นการทั่วไป มิใช่ส่งเสริมและบำรุงรักษาประเพณี ที่ให้ประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะ การจัดงานตามแบบวัฒนธรรมไทย ถือเป็นเรื่องเฉพาะตัวของคู่บ่าว-สาว และญาติของคู่บ่าว-สาว ผู้ที่ได้รับประโยชน์คือคู่บ่าว-สาว และญาติของคู่บ่าว-สาว ประชาชนทั่วไปไม่ได้รับประโยชน์แต่อย่างใด การดำเนินการดังกล่าว จึงไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย และไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่อย่างใด ดังนั้นการเบิกจ่ายตามโครงการดังกล่าว จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตาม ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 ข้อ 16 และระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงินและการเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2547 ข้อ 67 และให้กระทรวงมหาดไทยกำหนดหลักเกณฑ์ เกี่ยวกับการการดูแลส่งเสริมและบำรุงรักษา จารีตประเพณี และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่นให้ชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางให้องค์กรส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติต่อไป