วันนี้( 27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านห้วยพลูแดงร้อน หมู่ 3 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้าน ได้อาศัยช่วงฤดูแล้ง เก็บเกี่ยวหญ้าคาตามคันนา และไหล่เขา มากองแฝก-กองคา หรือไพหญ้าคา ไว้ใช้ประจำบ้าน และขายสร้างรายเสริม จากการทำนา เนื่องจากในช่วงนี้แหล่งน้ำธรรมชาติขาดแคลนน้ำไม่มีน้ำทำนาอีก
นางมาลัย นิลสนธิ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/4 หมู่ 3 ต.แก่งโสภา กล่าวว่า ในช่วงนี้ชาวบ้านไม่ได้ทำนา เนื่องจากน้ำไม่มี ต้องรอฤดูฝนครั้งต่อไป ถึงจะทำไร่ไถ่นาได้ ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านจำนวนกว่า 100 หลังคาหลังเรือน ได้ต่างไปเกี่ยวหญ้าคา ที่ขึ้นตามไหล่เขา และคันนา มาเก็บไว้ภายในบ้าน เพื่อกองแฝก-กองคา หรือไพหญ้าคา (เรียกเป็นหน่วย คือ ตับ) กันเกือบทุกหลังคาเรือน ทั้งเพื่อนำไปใช้ภายในบ้าน มุงหลังคาบ้าน หลังคาเล้าหมู เล้าไก่ และที่สำคัญสามารถขายสร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี โดยขณะนี้สามารถขายไพหญ้าคา ตับละ 8-10 บาทแล้ว จากเมื่อปีที่แล้ว ขายได้เพียงตับละ 3-4 บาทเท่านั้น ส่งผลให้ครอบครัวตนมีรายได้ในช่วงหน้าแล้งนี้เดือนหนึ่งประมาณ 5,000 บาททีเดียว
ด้านนางจูม จันทึก อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 3 กล่าวว่า ตนเองกองหญ้าคาขายมานานกว่า 10 ปีแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ที่ทำรีสอร์ท ต้องการนำไพหญ้าคา ไปมุงหลังคาที่พัก และร้านอาหาร ซึ่งจะสร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดี โดยจะสั่งซื้อทีก็ 400-500 ตับ ถ้าส่งจำนวนมาก ก็ขายตับละ 8 บาท ถ้าซื้อแยก ก็ขายตับละ 10 บาท วันหนึ่งตนเอง จะกองแฝก-กองคา เป็นไพหญ้าคา วันหนึ่งประมาณ 30 ตับเท่านั้น ซึ่งหากลูกค้ามาสั่งซื้อทีถ้าตนเองผลิตไม่ทัน ก็จะนำของเพื่อนบ้านมาขายร่วมกัน สร้างรายได้งาม
นางจูม ยังกล่าวอีกว่า ผู้ที่นำไพหญ้าคาไปมุงนั้น จะมีข้อดีคือเวลานอนกลางคืนจะหอมกลิ่นหญ้าคาโชยมาตามสายลม สร้างบรรยากาศของกลิ่นไอของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ส่วนอายุของการใช้งานนั้นเมื่อมุงหลังคาแล้ว ก็จะสามารถใช้ได้ถึง 5-10ปีทีเดียว
/////