วันที่ 26มกราคม2556 ผู้สี่อข่าวรายงานว่า สื่อมวลชนในจังหวัดพิษณุโลกได้
ในอีเมลของชาวตำบลวังน้ำคู้ ที่ส่งถึงสื่อมวลชน ระบุว่า หัวข้อ: ขอขอบคุณ ที่เข้ามาตรวจสอบบ่อขยะที่
นายนรินทร์ วัฒนกุลชัย นายกเทศบาลเมืองอรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนในฐานะผู้บริหารเทศบาลเมืองอรัญญิก ซึ่งถือว่า เป็นตำบลรอบๆตัวเมืองพิษณุโลกมีประชากรมาก ซึ่งผลที่ตาม ก็คือ ขยะมีปริมาณสูงมาก ที่ผ่านมาเคยนำขยะไปทิ้งที่ บ่อของ”กำนันจักร” โดยเหมาจ่ายเป็นรายปีๆ ละ 60,000 บาท แต่บอกได้เพียงว่า ไม่ค่อยถูกหลักอนามัย ประกอบกับปีงบประมาณ 2556 เจ้าของบ่อขยะที่วังน้ำคู้ ขอเพิ่มราคาเหมาจ่ายเป็น อบต.ละ 100,000 บาท ทำให้อบต.อรัญญิกเปลี่ยนสถานที่ทิ้งขยะ มาเป็น”บ่อขยะ บึงกอก” อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ของเทศบาลนครพิษณุโลกก่อสร้างไว้กำจัดขยะแบบเชิงกล ซึ่งแน่นอนว่า ถูกต้องตามหลักการกำจัดขยะ แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่ต้องสูงขึ้น ไม่ได้เหมาจ่าย แต่คิดเป็นตันๆ 400 บาท
โดยที่ปริมาณขยะของเทศบาลเมืองอรัญญิกนั้น มีประมาณวันละ 15 ตัน ประเมินแล้ว ต้องจ่ายค่ากำจัดขยะปีละเกือบ 2,000,000 บาท ถือว่าจ่ายมากกว่า บ่อขยะที่ไม่ถูกต้อง แต่หากไปเทียบกับค่าน้ำมันที่ต้องวิ่งไปส่ง ต.วังน้ำคู้แล้ว ถือว่า พอๆกัน เพราะแต่ละปี ลดการจ่ายค่าน้ำมันปีละ 7 แสนบาทกว่า และค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก เนื่องจากเทศบาลนครพิษณุโลกมีสถานีขนถ่ายและคัดแยกขยะที่บ้านหนองหัวยาง ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก ก่อนไปทิ้งที่บ่อบึงกอก อ.บางระกำ สิ่งสำคัญ ผู้บริหารอบต.ต้องคิดถึงสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมที่ดี หากคิดของราคาถูก แล้วทำผิดกฏหมาย ผู้บริหารรู้แล้ว ก็ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
นายกเทศบาลเมืองอรัญญิก ยอมรับว่า ปัญหาขยะเกิดขึ้นกับเมืองใหญ่ๆ สิ่งทีแก้ไข ก็คือ ผู้บริหารเมือง ทั้ง ผู้ว่าฯ สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม จะต้องบังคับใช้กฏหมายไปที่บ่อขยะ ที่ไม่ถูกต้อง จะต้องทำให้ถูกต้อง ส่วนการที่ไปบังคับ อบต.ที่เขา คงไม่ได้ เพราะอบต.บางแห่งไม่มีรายได้ จึงต้องใช้วิธี ลดต้นทุน คือ แอบไปทิ้งขยะแบบเถื่อนๆ เพราะ อบต.ไม่มีทางเลือก