ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ จ.พิษณุโลก นายนพคุณ แถมพยัคฆ์ นายกเทศมนตรีตำบลหัวรอ ได้ร่วมเสวนาภูมิปัญญาประชาคม หัวรอ-เตาไห ครั้งที่ 1 ร่วมกับ ศูนย์พิษณุโลกศึกษา ต.หัวรอ สภาวัฒนธรรมตำบลหัวรอ โดยงานเสวนาครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟู แหล่งท่องเที่ยวตำบลหัวรอให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา มีงบประมาณกรมศิลปากร ก่อสร้าง”แหล่งเตาตาปะขาวหาย”ด้วยงบประมาณ 2.9 ล้านบาท(ปี55) แต่ไม่ปรากฎว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชม เตา เผา หรือ แม้กระทั่ง รูปหล่อ”ตาปะขาวหาย” ซึ่งอดีตกาล ถือว่า ตาปะขาวหาย ถือเป็นผู้สร้างพระพุทธชินราช ยุคสมัย 600 ปี เนื่องจากนำเศษภาชนะยุคนั้นไปวิเคราะห์ดูที่ประเทศออสเตรเลีย
การเสวนาครั้งนี้ ได้ระดมปราชญ์ชาวบ้าน ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านประวัติศาสตร์ของเมืองพิษณุโลก อาทิ จ.ส.อ.ดร.ทวี บูรณะเขตต์, อาจารย์ขวัญทอง สอนศิริผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์และศิลปะพระเครื่องเมืองพิษณุโลก เข้าร่วมเสวนา เพื่อเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวจากวัดใหญ่ สู่ตำบลหัวรอ อ.เมือง พิษณุโลก
ทั้งนี้วงการเสวนาได้พูดถึง ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ วัดตาปะขาวหาย ตำบลหัวรอ ซึ่งอดีตเคยเรียกว่า วัดชีปะขาวหาย เป็นวัดในตำนานประวัติศาสตร์การสร้างหลวงพ่อพระพุทธชินราช ปรากฏในพงศาวดารเหนือ ที่พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก เจ้าเมืองเชียงแสน โปรดให้มีการหล่อพระพุทธรูป 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และ พระศรีศาสดา แต่พระพุทธชินราชหล่อไม่สำเร็จ ทองแล่นไม่สมบูรณ์ถึง 3 ครั้ง ต่อมาได้มีชีปะขาวมาทำการหล่อจึงสำเร็จสมบูรณ์ ก่อนที่จะเดินหายไปที่บริเวณวัดตาปะขาวหายในปัจจุบัน
จากประวัติความเป็นมาดังกล่าว มีความเชื่อมโยงกับสถานที่ที่มีอยู่จริง เช่น วัดตาปะขาวหาย และ ศาลาช่องฟ้า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและเที่ยวชมได้จริง(ห่างจากวัดเล็กน้อย อ้อมฝั่งริมแม่น้ำน่าน) อีกทั้ง ต.หัวรอ ยังมีเตาทุเรียนโบราณ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำน่าน ล่าสุดทางกรมศิลปากรได้เข้าบูรณะซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมได้แล้ว แต่ปัจจุบัน ไม่มี ป้ายบอกเส้นทาง ไปแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว โดยเฉพาะจุดประดิษฐานรูปหล่อชีปะขาวหาย และ ศาลาช่องฟ้า ซึ่งตำนานเล่าว่า เป็นจุดที่ ชีปะขาว หายตัวไปหลังจากหล่อพระพุทธชินราชแล้วเสร็จ โดยทั้ง 2 จุดดังกล่าว อยู่ริมแม่น้ำน่าน (ไม่ได้อยู่ในเขตวัด ตาปะขาวหาย ) ส่งผลให้นักท่องเที่ยว หรือ แม้กระทั่งคนพิษณุโลกเองยังไม่ทราบ ทราบเพียงแต่”วัดใหญ่”สถานที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราชเท่านั้น
ผลสรุปในที่ประชุม ต้องการผลักดัน”ตำบลหัวรอ”ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ นอกจากนี้ยังมี หลวงพ่อดำ วัดบางพยอม หลวงพ่อสองพี่น้อง วัดโพธิญาณ หลวงพ่อทองคำ วัดบ่อทองคำ และหลวงพ่อหิน วัดสระโคล่ เพราะหากมีการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนสะพัด