เวลา 08.15 น.วันที่ 9 มกราคม 2556 ร.ต.อ.สุภาพ เงินแก้ว ร้อยเวรสภ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุรถบรรทุกน้ำมันชนกัน และมีน้ำมันรั่วไหลจากรถทั้งสองคัน บริเวณถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก ขาเข้าตัวเมืองหน้าปั้มเอสโซ่ ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพา และรถดับเพลิงของอบต.วังทอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 มาควบคุมสถานการณ์
โดยพบว่า รถน้ำมันสองคันได้พุ่งชนท้ายกัน คันแรกของบริษัท SYNERGY ถูกชนเข้าที่ถังบรรทุกน้ำมันด้านท้าย น้ำมันรั่วไหล คนขับชื่อนายชุมพล ศรีทองเมือง อายุ 38 ปี ภูมิลำเนาเลขที่ 33/3 ม.6 ต.หนองม่วง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ได้ใช้กระถางรองรับน้ำมันดีเซลที่ไหลรั่วลงพื้นถนนตลอดเวลา ส่วนคันที่ชนเป็นรถบรรทุกน้ำมันของหจก.วรัชนันท์ หรือ VRN สภาพด้านหน้าคนขับพังยับเยิน รถเสียหลักลงไปอยู่ในคูน้ำ กลางถนนสี่เลน คนขับชื่อ นายอาคม มาริด อายุ 35 ปี ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 504/292 ม.3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ข้างรถมีน้ำมันไหลออกมา
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดช่องทางจราจรฝั่งขาเข้าตัวเมืองพิษณุโลกทันที ให้ผู้ใช้รถเบี่ยงไปใช้ฝั่งขาออก พร้อมกับฉีดน้ำควบคุมสถานการณ์ และกำชับให้ผู้เข้าใกล้ห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด โดยน้ำมันที่รั่วไหลลงพื้นถนนนั้นเป็นน้ำมันดีเซล พร้อมกับประสานรถยก รถขนถ่ายน้ำมันจากคลังน้ำมันดิบบึงพระมาขนถ่ายน้ำมันจากรถทั้งสองคันออก รถน้ำมันคันแรกของบริษัท SYNERGY บรรทุกน้ำมันเป็น 4 ถังย่อย ได้แก่ น้ำมันเบนซิน 9,000 ลิตร น้ำมันดีเซลอีก 3 ถัง แบ่งเป็นถังละ 17,000 ลิตร 7,000 ลิตร และ 8,000 ลิตร เป็นถังที่ถูกชนท้ายและน้ำมันไหลรั่วออกมาก ขณะที่รถของVRN บรรทุกน้ำมันดีเซลความจุ 39,000 ลิตร
นายอาคม มาริด คนขับรถน้ำมันของVRN เปิดเผยว่า รถบรรทุกน้ำมันทั้งสองคัน รับน้ำมันจากโรงกลั่นไทยออย์ จ.ชลบุรี และออกเดินทางเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 8 มกราคม 2556 จุดหมายปลายทางน้ำน้ำมันดิบไปส่งที่เมืองบ่อเบี้ย สปป.ลาว โดยเข้าทางเส้นทางบ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ กำหนดถึงเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 9 มกราคม 2556 ทั้งสองคันขับตามกันมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ขับอยู่เลนซ้าย มีรถยนต์กระบะอีซูซุ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับแซงในเลนขวา ทราบชื่อคนขับภายหลังชื่อนายอุบล ระหว่างนั้น มีคนแก่เดินข้ามถนนออกมา ทราบชื่อภายหลังชื่อนายสงัด วาจันทร์ อายุ 80 ปี ชาวบ้านต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้เดินข้ามถนนผ่านรถบรรทุกน้ำมันคันแรกไป แต่ปรากฏว่าถูกรถยนต์กระบะชนอย่างจัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเป็นเหตุให้รถบรรทุกน้ำมันคันแรกเบรกกระทันคัน รถคันหลังจึงพุ่งชน
โดยหลังเกิดเหจุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันๆได้นำรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และนำทรายมาเททับน้ำมันที่ไหลลงบนผิวจราจร พร้อมประสานรถโหมของกองทัพภาคที่ 3 มาเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และเตรียมนำรถน้ำมันจากคลังน้ำมันบึงพระมาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันจากทั้งสองคัน
////
ชมภาพวีดีโอ