วันที่ 3 ธันวาคม 2556 นางรัตนา จตุพรพิทักษ์ เจ้าของร้านจตุพรพิทักษ์ ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง กล่าวถึงการปรับค่าแรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 300 บาทตามนโยบายรัฐบาลที่บังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2556 ว่า ทางร้านได้สนองนโยบายรัฐบาลโดยมีการปรับค่าแรงให้คนงานตั้งแต่ปีที่ผ่านมาเป็นวันละ 350 บาท ถือว่าเป็นค่าแรงปกติ ซึ่งการปรับค่าแรงมองว่าเป็นการปรับตามความเหมาะสมของงาน เนื่องจากงานเราเป็นการแบกยกของและงานหน้าร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ประกอบกับมองว่าค่าครองชีพสูงขึ้นรอการปรับขึ้นค่าแรงงานมานานแล้ว การปรับค่าแรงงานเป็นวันละ 300 บาทก็ดูเหมาะสม ซึ่งของเราไม่ได้รับผลกระทบเพราะเป็นธุรกิจขนาดเล็กมีลูกจ้างเพียง 6-7 คน แต่หากเป็นโรงงานขนาดใหญ่มีลูกจ้างมากหลายสิบคนหรือเป็น 100 คนหรือปน 1,000 คน คงได้รับผลกระทบ ซึ่งบางรายมีการปิดกิจการไปก็มี แต่สำหรับกิจการร้านของเรายังไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะได้จ้างแรงงานสูงกว่าที่กำหนดอยู่แล้ว แต่จะมีปัญหาหาคือการแข่งขันทางธุรกิจที่มีมาก ร้านค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 1-2เท่าตัว ทำให้เกิดการแชร์ตลาด รายได้หดหายลงไปบ้าง
ด้าน นายวิทยา หอมตลบ คนงานร้านจตุพรพิทักษ์ กล่าวว่า เคยเป็นลูกจ้างอยู่ร้านวัสดุก่อสร้างร้านใหญ่หลายแห่งใน จ.พิษณุโลก แต่ยิ่งร้านใหญ่กับให้ค่าจ้างถูกเพียง 200-230 บาทต่อวัน แต่หลังจากมาทำงานที่ร้านวัสดุก่อสร้าง จตุพรพิทักษ์ ได้ให้เงินเดือน 350 บาทต่อวันได้รับเงินอัตรานี้มาตลอด เช่นเดียวกับเพื่อลุกจ้างในร้านที่ไม่มีใครได้เงินเดือนต่ำกว่าวันละ 350 บาทเลย คิดว่าอัตรานี้พอใจ งานก็ไม่หนักเงินมีเพียงขายของหน้าร้าน ขับรถและส่งสินค้าให้ลูกค้า การออกกฎหมายจ่ายค่าจ้างแรงงานขึ้นต่ำวันละ 300 บาท ทำให้แรงงานเท่าเทียมกัน ได้รับค่าจ้างเหมาะสมกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว