จากกรณีพบศพนายพลวัฒน์ ครุฑจันทร์ อายุ 55 ปี เจ้าของฟาร์มเป็ด ถูกคนร้ายใช้เป็นขวดเหล้าฟาดเข้าที่ศีรษะและใบหน้า บริเวณกลางทุ่งนา หมู่ที่ 4 ต.พันเสา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เบื้องคาดเป็นลูกจ้างสองพี่น้องที่หายตัวไปหลังเกิดเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 55 พ.ต.อ.วีระสมพร อยู่ศรีสกุล รอง ผบก.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.นิติศักดิ์ แก้วอ้น ผกก. พ.ต.ท.ศราวุธ ภมรกุล รองผกก. พ.ต.ท.เจริญ พิทักษ์นิติวุฒิ รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.สุรกานต์ มุคซาเคน สว.สส.สภ.บาง
ระกำ จ.พิษณุโลก ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายบุญยงค์ เนียมเตียง อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 354/2555 และนายบุญยืน เนียมตียง อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 353/2555 สองพี่น้อง อยู่บ้านเลขที่ 72/1 ม.4 ต.วังโมกข์ อ.วิชิรบารมี จ.พิจิตร ผู้ต้องร่วมกันฆ่านายพลวัฒน์ ครุฑจันทร์ นายจ้างเจ้าของฟาร์มเป็ด พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และถังแก๊สสีเขียวยี่ห้อสยามแก๊ส ที่ใช้ทุบนายจ้างจนตาย โดยยังมีคราบเลือดแห้งติดอยู่ด้วย และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สีแดงดำ ทะเบียน ขขก-751 พิจิตร ที่ใช้เป็นพาหนะหลบหนี
ทั้งนี้จากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ได้รวบรวมหลักฐานและพยานบุคคล โดยมีพยานเห็นว่าผู้ตายนั่งดื่มเหล้ากับสองพี่น้อง ก่อนจะหายตัวไปหลังนายพลวัฒน์ ครุฑจันทร์ ถูกฆ่าตาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบลูกกุญแจรักรยานยนต์ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้ขยายผลกระทั่งทราบว่าเป็นกุญแจรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สีแดงดำ ทะเบียน ขขก-751 พิจิตร ซึ่งเป็นของผู้ต้องหา จึงได้ออกติดตาม กระทั่งทราบว่าได้หลบหนีไปที่ อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร พบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จึงได้ตรวจสอบทราบว่าทั้งสองได้ขึ้นรถทัวร์โดยสารของบริษัทเชิดชัยทัวร์ สายพิษณุโลก-กรุงเทพ จึงติดตามไปทันที จนกระทั่งสามารถควบคุมตัวทั้งสองได้ขณะกำลังหลบหนีเข้ากรุงเทพ นำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจบางระกำ
จากการสอบสวน ทั้งสองให้การรับสารภาพ ว่าได้มาทำงานเป็นคนเลี้ยงเป็ดประมาณ 1 เดือน วันเกิดเหตุได้นั่งดื่มเหล้ากับผู้ตาย ระหว่างนั้นได้มีการโต้เถียงเรื่องการเลี้ยงเป็ด ทำให้นายบุญยงค์ พี่ชายลุกขึ้นเตะทำร้ายร่างกาย ก่อนจะใช้ขวดตีที่ใบหน้า จนผู้ตายล้มเสียหลัก และลุกขึ้นมาได้อีก ทำให้นายบุญยืน น้องชายได้อุ้มถังแก๊สกระแทกซ้ำจนลงไปนอนกับพื้น ก่อนจะใช้ถังแก๊สที่ใบหน้าและร่างกายจนแน่นิ่ง ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปที่ อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร โดยเอารถไปฝากไว้ และจะให้ญาติมาเอารถไปภายหลัง จากนั้นขึ้นรถทัวร์เตรียมตัวจะเข้าไปหลบซ่อนตัวที่กรุงเทพ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว