ที่จังหวัดพิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบคุณพ่อยอดนักสู้ ยึดอาชีพถีบสามล้อ ออกหาเงินเลี้ยงดูลูกชายวัย 32 ปี พิการทางสมอง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ตั้งแต่เกิด อาศัยอยู่กันตามลำพังสองพ่อลูก ภรรยาทิ้งไปตั้งแต่ลูกยังเล็ก
คุณพ่อยอดนักสู้รายนี้ชื่อนายชัยเทพ ตราชื่นต้อง อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/10 ถ.เอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นผู้ที่เลี้ยงดูลูกชายคือ นายชัยชัช ตราชื่นต้อง หรือ แพะ อายุ 32 ปี มาตั้งแต่เกิด ที่บ้านพักริมถนนเลียบทางรถไฟ
นายชัยเทพ เปิดเผยว่า เดิมตนเป็นคนตำบลหนองตม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก สมัยหนุ่ม ๆ ประกอบอาชีพรับจ้างก่อสร้างทั่วไป แต่ระยะหลังทำงานหนักไม่ค่อยไหว จึงหันมายึดอาชีพถีบสามล้อรับจ้าง ออกหาลูกค้าทั่วไปบริเวณวัดใหญ่ เดิมตนมีภรรยา และมาอาศัยที่ดินของการรถไฟ ปลูกบ้านพักหลังเล็ก ๆ อยู่ และมีลูกชาย 1 คน คือนายชัชชัย และตั้งแต่เกิดมา ตัวเหลือง สมองขาดเลือด ทำให้ป่วยพิการทางสมองมาตั้งแต่เกิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พูดไม่ได้ แต่สามารถรับฟังการสื่อสารจากตนรู้เรื่อง และช่วงลูกชายตนอายุประมาณ 7 ขวบ ภรรยาตนก็ทิ้งตนกับลูกไป เหลือเพียงตนดูแลลูกชายอยู่ตามลำพัง
นายชัยเทพ เผยต่อว่า ในทุกวันจะออกจากบ้านพักตั้งแต่เช้ามืด เพื่อไปรับหลวงพี่จิรชัย วัดเจดีย์ยอดทอง มาบิณฑบาตรที่ตลาดวัดใหญ่ และจะปิดบ้านปล่อยให้ลูกชายอยู่ตามลำพัง ได้รายได้หลักจากหลวงพี่มาวันละ 20 บาท พร้อมกับข้าวและอาหารที่หลวงพี่ให้มาเป็นอาหารเช้าของตนและลูกชาย จากนั้นก็จะกลับมาบ้าน มาดูแลความสะอาด อาบน้ำ ให้ลูกชาย ป้อนน้ำ ป้อนข้าวให้ลูก สาย ๆ หน่อย ก็นำรถสามล้อ ออกไปรอรับลูกค้าที่วัดใหญ่ รายได้ไม่แน่นอน บางวันก็ได้วันละ 40-50 บาท บางวันก็ไม่ได้เลย ตกเที่ยง ก็จะรีบกลับมาที่บ้านพัก หาอาหารกลางวันให้ลูกชายกิน ช่วงบ่ายถึงเย็นก็จะอยู่กลับลูกตลอด เพราะไม่มีใครดูแล ลูกชายตนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย บางวัน แค่จะเปิดมุ้งออกมาเองก็ออกมาไม่ได้ กลางคืนก็ไปไหนไม่ได้ ก็ต้องอยู่กับลูกตลอด ในแต่ละเดือนก็จะมีเบี้ยยังชีพคนพิการ ของนายชัยชัย มาช่วยค่าใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของตนนั้น ยังไม่ได้รับ กำลังดำเนินการอยู่
“ท้อแต่มันถอยไม่ได้ ไม่รู้ทำอย่างไร ทิ้งมันไม่ได้ ถ้าเขาไปก่อนผมก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าผมไปก่อนเขามีปัญหาแน่นอน ไม่มีใครเลี้ยง ผมคิดแค่ตรงนี้แหละ ญาติพี่น้องก็ไม่มี มีน้องชายอยู่คนหนึ่งก็บวชเป็นพระอยู่ที่จ.อุตรดิตถ์” นายชัยเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพของน้องแพะ หรือ นายชัชชัย นั้น ชีวิตประจำวันจะนั่งอยู่ตามลำพังในบ้านพักขนา
ดเล็ก สภาพเก่า ๆ ร่างกายไม่สามารถลุกเดินได้ มือเท้าหงิกงอ ไม่สามารถพูดจาได้ แต่รับฟังกับผู้เป็นพ่อได้ ส่วนใหญ่แล้วหลังจากนายชัยเทพออกจากบ้านไปขี่สามล้อในช่วงเช้า นายชัชชัยก็จะนั่งอยู่บนที่นอน และเมื่อผู้เป็นพ่อกลับมาถึงก็จะป้อนน้ำให้ลูกก่อน ก่อนจะดูแลว่าถ่ายและฉี่รถที่นอนหรือไม่ และจะพาไปอาบน้ำ แต่งตัว จากนั้นจึงป้อนข้าว
นางศิริลักษณ์ พิณพาทย์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ถ.เอกาทศรถ เพื่อนบ้านของนายชัยเทพ เปิดเผยว่า เห็นครอบครัวน้องแพะมาตั้งแต่น้องแพะเกิดแล้ว สมัยยังเล็ก ๆ ก็ยังมีแม่อยู่ แต่เมื่อทิ้งกันไปนานแล้วครอบครัวนี้ก็อยู่กันตามลำพังสองพ่อลูกเท่านั้น ทุกเช้า ลุงชัยเทพก็จะนำสามล้อคู่ใจออกไปรับพระบิณบาตร ช่วงสายก็จะกลับมาบ้าน ป้อนข้าว ป้อนน้ำ น้องแพะ จากนั้นก็จะออกไปขี่สามล้อรับจ้างอีกครั้งหนึ่ง และจะกลับมาตอนเที่ยง ถ้าลุงชัยเทพ ไม่ล็อกประตูบ้าน ตนก็จะช่วยดูแลน้องแพะให้ เป็นอย่างนี้ทุกวัน เรียกได้ว่าเป็นพ่อที่สู้ชีวิตจริง ๆ
สำหรับผู้มีบุญต้องการช่วยเหลือครอบครัวพ่อลูก สามารถโทรศัพท์ติดต่อกับนางศิริลักษณ์ พิณพาทย์ เพื่อนบ้านของลุงชัยเทพ ที่หมายเลข 084-6197783 หรือ สามารถโอนเงินเข้าช่วยเหลือครอบครัวนี้ ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาพิษณุโลก ชื่อบัญชีนายชัยเทพ ตราชื่นต้อง เพื่อนายชัชชัย ตราชื่นต้อง หมายเลขบัญชี 010272952274