จับน้องเขยอุ้มผอ.ซี 8 ปฏิเสธลักพาตัว แค่เคลียร์เรื่องเงิน

จับน้องเขยผอ.ซี 8

ความคืบหน้ากรณี น.ส.เพลินตา ประดับสุข อายุ 56 ปี ผอ.กลุ่มส่งเสริมศาสนาศิลปวัฒนธรรม จ.พิษณุโลก ถูกนายกิตติศักดิ์ คงอาจหาญ ชาว จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นน้องเขย และพวกรวม 3 คน ลักพาตัวเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 6 พฤศจิกายน น.ส.เพลินตา ได้เดินทางกลับมาที่ จ.พิษณุโลก พร้อมให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกลักพาตัวไปที่ จ.กาญจนบุรี

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.ของวันนี้( 14 พ.ย.)  พ.ต.อ.วีระสมพร   อยู่ศรีสกุล  รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลก  พ.ต.อ.นฤชา   สุวรรณลาภา  รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ร่วมกันแถลงข่าวงการจับกุมผู้ต้องหาในคดีอุ้ม น.ส.เพลินตา  ประดับสุข ผอ.กลุ่มส่งเสริมศาสนาศิลปวัฒนธรรม จ.พิษณุโลก   จากบ้านพักเลขที่ 459/470 หมู่ 7 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลกตำแหน่ง  ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา คือ นายกิตติศักดิ์   หรือเก่ง  คงอาจหาญ  อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/5 หมู่ 8 ต.ดอนแฉลบ อ.ห้วยกระเจ้า จ.กาญจนบุรี  น้องเขยของผู้เสียหายในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์  ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ ห้องเช้าหมายเลข B4  ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลยอ จ.กาญจนบุรี ก่อนหน้านี้ ได้มี นายสมโภชน์ หมดทุกข์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 8 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี หลังจากได้เดินทางเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ตอนนี้อยู่ระหว่างการฝากขัง นอกจากนี้ยังมี ผู้ต้อหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 1 รายคือ นายชูเกียรติ หรือเอก บุญอยู่ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 ซอยกำนันพันธ์ ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม 

 

เบื้องต้น นายกิติศักดิ์ ให้การปฏิเสธ และกล่าวว่าในวันเกิดเหตุตนเองได้เดินทางมาที่ จ.พิษณุโลก เพื่อมาพูดคุยกับน.ส.เพลินตา ปัญหาเรื่องเงิน ค่าฌาปนกิจศพของอดีตภรรยาที่เสียชีวิตไปจำนวน 530,000 บาท โดยภรรยาตนป่วยและเสียชีวิตเมื่อปี 2554 ซึ่งบุตรชายของตนเองจะต้องได้รับเงินดังกล่าวแต่เมื่อตรวจสอบในบัญชีพบว่าเงินดังกล่าวเหลือเพียง 61 บาท ตนจึงไปสอบถามว่าเงินในบัญชีหายไปไหนหมดทำไมเหลือเท่านี้ และอ้างว่าให้ญาติพี่น้องของตนไปหมดแล้ว จึงตัดสินใจพาน.สงเพลินตาเดินทางมา จ.กาญจนบุรีเพื่อสอบถามแก่บุคคลที่ น.ส.เพลินตาอ้างถึง 

 

นางกิตติศักดิ์ ให้การต่อว่า หลังจากที่เดินทางมาที่ จ.กาญจนบุรี น.ส.เพลินตาได้รับว่า เงินทั้งหมดอยู่ที่ตนเองจริง และขอรับผิดชอบและจะชดใช้ให้ โยมีเงินอยู่ในบัตรเอทีเอ็มจำนวน 200,000 บาท ก็ยกเงินทั้งหมดให้ตนเอง ส่วนที่เหลือจะผ่อนชำรำให้เดือนละ 5,000 บาท จนกว่าจะครบจำนวน  และตนเองก็ได้ปล่อยตัวน.ส.เพลินตาตั้งแต่ช่วยค่ำของวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย. โดยยินยันว่าไม่มีการทำร้างร่างกายและนำอาวุธปืนมาข่มขู่แต่อย่างใด ตนเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์บานปลายขนาดนี้ ทุกอย่างก็ขอไปให้การในชั้นศาลต่อไป 

 

แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลกอีก 1 คน คือ นายชูเกียรติ หรือเอก บุญอยู่ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 ซอยกำนันพันธ์ ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม ก็ให้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่จะดีกว่า ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการกดดันเพื่อจับกุมตัวให้ถึงที่สุด

////

 

 

แสดงความคิดเห็น