จอส หนุ่มคลั่งพาแม่ออกจากหอพักกลางดึก

เจ้าของหอพักสุภาพร ชี้ให้ดูร่องรอยกระจกห้องพักแตก หลังจอส หนุ่มคลั่งพาแม่มาอาศัยและกักตัวทำร้ายแม่ตัวเอง ล่าสุด สงบสติอารมรณ์แล้ว และออกจากหอพักไปตั้งแต่ตี 2

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 รายความคืบหน้าเหตุหนุ่มสติไม่สมประกอบ เกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้มีดยาว 1 ฟุตจำนวน2 เล่ม จับล็อกตัวแม่ไว้เป็นตัวประกันพร้อมทำร้ายทุบตี จนแม่ได้รับบาดเจ็บและกักขังไว้ภายในห้องพักสุภาพร ตั้งแต่เวลา 11.00 น.ของวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555 จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักจิตวิทยาเข้าไปเจรจาใช้เวลานานกว่า 12ชั่วโมงแต่ก็ไม่สำเร็จและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอนกำลังออกไปในเวลา 23.00 น. เนื่องจากนายจอส หนุ่มคลั่ง อาการดีขึ้น และอยู่อย่างสงบในห้องพัก

สถานการณ์ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายน 2555  ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ หอพักสุภาพร เลขที่ 17 ถนนจ่านกร้อง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ปรากฏว่าสถานการณ์เงียบสงบ เมื่อสอบถาม นายพยนต์ หมื่นสุวรรณ์ เจ้าของหอพักสุภาพร กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุนายจอสหนุ่มคลั่ง ได้พานางมาลินี อำศวะสิริ อายุกว่า 60 ปี แม่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมและตาบอด เข้ามาอยู่ในหอพัก พร้อมล็อกกุญแจขังไว้ ก่อนขนของย้ายเข้ามาอยู่ โดยไม่บอกกล่าวตน เพราะทั้งสองคนเคยมาเช่าอยู่ที่นี่ เมื่อสอบถาม แม่ของหนุ่มคลั่งทราบว่าก่อนมาอยู่ยังไม่ได้กินข้าวมา 3วันแล้ว ตนออกไปไหนไม่ได้จนลูกพามาที่นี่ ปรากฏว่าช่วงที่ตำรวจสายตรวจมาดูเหตุการณ์ ทำให้นายจอสเกิดความกลัว และคลุ้มคลั่งจับแม่ใช้มีดยาว 1ฟุต จี้คอแม่ไว้ตลอดทั้งวันและทำร้ายร่างกายอย่างที่เห็นโดยที่ตำรวจไม่วสามารถทำอะไรได้

 

ชุดสืบสวนและจนท.พยาบาลรพ.พุทธ ควบคุมสถานการณ์ จอสหนุ่มคลั่งทำร้ายแม่ในหอพักสุภาพร ถ.จ่านกร้อง เฝ้าอยู่นาน 12 ชั่วโมง จึงสงบสติอารมณ์ได้ และพาแม่ออกจากหอพักไปแล้ว

จนกระทั่งเวลากลางดึกหลังจากตำรวจกลับไปหมดลูกชายตน(พ.ต.ท.สุรนาท หมื่นสุวรรณ์ เป็น รอง ผกก.ป.สภ.นิคมเขาบ่อแก้ว จว.นครสวรรค์) ได้กลับมาบ้าน และได้เข้าไปพูดคุยกับนายจอส และแม่ โดยบอกว่าเป็นลูกชายเจ้าของหอ ช่วงนั้น นายจอดอารมณ์สงบลงมากแล้ว บอกว่ากลับถูกตำรวจจับ ทำอะไรไปไม่รู้ตัว หลังจากลูกชายไปเจรจาซึ่งก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรบ้างก็ปรากฏว่า นายจอสยอมพาแม่ออกไปจากบ้านโดยดี ซึ่งตนตื่นมาตอนตี 2ก็ไม่พบสองแม่ลูกแล้ว ช่วงเช้าจึงนำกุญแจมาล็อกไว้เผื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาตรวจสอบเก็บหลักฐาน หรือนายจอสกับแม่จะมาขนสิ่งของเครื่องใช้ออกไป

 

แสดงความคิดเห็น