ความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้ายจำนวน 3 คน อุกอาจบุกอุ้ม นางสาวเพลินตา ประดับสุข อายุ 56ปี ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนาศิลปวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก(ข้าราชการ ซี 8 ) ไปจากบ้านพักในหมู่บ้านชินลาภ บ้านเลขที่ 459/470 หมู่ที่ 7ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก และบังคับพาขึ้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ ยกสูง หมายเลขทะเบียน กธ-1945 พิษณุโลก ซึ่งเป็นของผู้เสียหายแล้วขับรถหลบหนี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น
พ.ต.อ.วีระสมพร อยู่ศรีสกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวถึงความคืบหน้าของคดี นางสาวเพลินตา ประดับสุข อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนาศิลปวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก ว่า ขณะเป็นที่ทราบอยู่แล้ว ว่า คนร้ายได้ปล่อยตัว น.ส.เพลินตา และได้เดินทางกลับมาถึงบ้านที่ จ.พิษณุโลก ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (วันที่ 6พฤศจิกายน ) ซึ่งทางพนักงานสอบสวน ได้สอบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่คาดไว้ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บรวบรวมหลักฐานพยาน เพื่อเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง ล่าสุดได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องพัวพันในคดีนี้ จำนวน 3 ราย คือ นายกิตติศักดิ์ คงอาจหาญ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/5 หมู่ที่ 8 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจ้า จ.กาญจนบุรี อดีตน้องเขยของนางสาวเพลินตา นายสมโภชน์ หมดทุกข์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่8 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจ้า จ.กาญจนบุรี และนายชูเกียรติ บุญอยู่ อายุ 46ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 ถนนนาสร้าง ซอยกำนันพัน ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม ผู้ต้องหาที่มาอุ้มจับตัว น.ส.เพลินตาได้จากบ้านในข้อหา ร่วมกันกักขังผู้อื่น ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่นโดยมีอาวุธปืนร่วมกันทำให้เกิดความกลัว โดยได้เพิ่มทีมไล่ล่าอีก 1ชุด ไล่ล่าอย่ากระชั้นชิด พร้อมทั้งได้นำหมายจับประสานกับตำรวจในพื้นที่จังหวัดภูมิลำเนาของตัวผู้ต้องหา และประสานตำรวจทั่วประเทศให้ช่วยเฝ้าติดตามในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ตามตะเข็บแนวชายแดน หวั่นเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีออกไปนอกประเทศ
ส่วนทางด้าน น.ส.เพลินตา ทางตำรวจได้จัดชุดเข้าไปสังเกตดูแลความบ้านภัย โดยเฉพาะ ที่บ้านพัก และการเดินทางไปทำงาน มีชุดสานตรวจวนเวียนเฝ้าระวังตลอด 24ชั่วโมง พร้อมกับกำชับตัว น.ส.เพลินตาว่า หากมีสิ่งผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบทันที คิดว่าไม่น่ามีอะไรน่าเป็นห่วง เวลานี้ทางด้านคดีได้มอบ พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เข้าไปดูแลด้วย อยากฝากให้ ผู้ต้องหา ที่หลบหนีคดีในเวลานี้เข้ามอบตัวสู้คดี ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูง ยืนยันว่าจะดำเนินคดีด้วยความยุติธรรม และให้ความเป็นธรรมแน่นอน
พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ทางตำรวจได้ให้ความสำคัญเฝ้าติดตามไล่ล่าตัวน้องเขยและผู้ร่วมกระบวนการ 2 ราย โดยได้ออกหมายจับแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งพอทราบเบาะแส คาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็ว ๆ นี้ ส่วนทางด้านคดีได้รวบรวมหลักฐานจนเพียงพอออกหมายจับผู้ต้องหาและนำตัวมาดำเนินคดีได้ หลักฐานชัดเจน 3 ราย ส่วน นายพัฒนา บริการ อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ประจำหน่วยพิทักษ์ป่านาล้อม อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก เป็นพยานสำคัญทางคดีปากหนึ่ง เวลานี้ตามหลักฐานยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มตัว ผอ.วัฒนธรรม ไป ส่วนทางด้านการดูแลความปลอดภัย ได้จัดตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นไปตามกฏหมายคุ้มครองพยาน ตรงนี้ไม่น่าห่วง ที่ห่วงคือข่าวทางสื่อมวลชนเดี๋ยวนี้รวดเร็ว อาจทำให้ผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีไปได้
//////