ชาวนาบางระกำ ทำนาหลังน้ำลดด้วยวิธีโยนกล้า

ทำนาแบบโยนกล้า

วันนี้( 7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาบางระกำทำนาโยน ที่บ้านวังกุ่ม หมู่ที่ 15 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หลังจากที่เข้าสู่หน้าหนาว น้ำที่ท่วมก็ลดระดับลงสู่ปกติ ชาวนาที่บ้านวังกุ่ม ได้เริ่มลงมือทำนาโดยนำวิธีการปลูกข้าวนาโยน แทนการหว่านข้าวแบบเดิม ช่วยลดต้นทุนด้านเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ถึง 10 เท่า แต่ให้ผลผลิตเท่ากับวิธีการหว่านแบบเดิม

ทำนาแบบโยนกล้า

เกษตรกร หมู่ 15 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ได้เห็นสารคดีการปลูกข้าวนาโยนทางโทรทัศน์ จึงนำวิธีการมาประยุกต์ใช้ โดยนำเมล็ดข้าวหยอดในหลุม ๆ ละ 3 เมล็ด เพาะไว้ 11-15 วัน นำต้นกล้าข้าวไปทดลองโยนในแปลงนา ทดลองทำมา 1 ปี ปรากฏว่าได้ผลผลิตดี ไม่แตกต่างจากการใช้เมล็ดพันธุ์ทำนาหว่าน ในทางกลับวิธีนี้ยังช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวสูงขึ้นอีกด้วย

ทำนาแบบโยนกล้า

เกษตรกร อ.บางระกำ กล่าวต่อว่า วิธีการปลูกข้าวแบบโยนกล้าสามารถประหยัดเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ 10 เท่าตัว คือ จากปกติการทำนาดำ และนาหว่านทั่วไป ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าว 30-40 กิโลกรัมต่อไร่ แต่วิธีการปลูกข้าวแบบโยนกล้า ใช้เมล็ดพันธ์ข้าวเพียง 4 กิโลกรัมต่อไร่ เท่านั้น ส่วนผลผลิตได้เฉลี่ยไร่ละ 1 ตันเท่ากัน จึงช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิต ลดรายจ่ายค่าเมล็ดพันธุ์ข้าว แรงงานเพียงคนเดียวก็สามารถทำนาได้ อีกทั้งช่วยกำจัดวัชพืชในนาข้าวได้ดี ประหยัดค่าปุ๋ย และยาฆ่าแมลง แต่ส่วนต่างก็ต้องนำไปสำรองเป็นค่าน้ำมัน เพื่อช่วงหน้าแล้งจะได้ใช้เป็นค่าน้ำมันดึงน้ำเข้านา แต่อย่างไรก็อยากให้ทางเกษตรจังหวัดพิษณุโลก มาแนะวิธีการประหยัดน้ำในการทำนา เพราะกลัวว่า หน้าแล้งในปีนี้จะแล้งจัดทำให้ขาดน้ำทำนา
/////

แสดงความคิดเห็น