วันที่ 19 ตุลาคม 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านอ.เมืองพิษณุโลกอยู่ในระดับต่ำมาก เป็นระดับที่ลดลงมาอย่างต่อเนื่องในเดือนตุลาคม 2555 หลังเขื่อนหลักในลุ่มน้ำ เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ลดการปล่อยน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้า ส่งผลให้วันนี้ แม่น้ำน่านที่สถานีวัดระดับน้ำ N 5A เชิงสะพานเอกาทศรถระดับต่ำที่สุดในรอบปี เช้าวันที่ 19 กันยายน 2555 อยู่ที่ระดับ 1 เมตรเท่านั้น จากช่วงต้นเดือนตุลาคมที่คงตัวอยู่ที่ระดับ 2-3 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่านต่ำมาก 90 ลบ.ม.ต่อวินาที
สถานการณ์แม่น้ำน้ำช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกที่ลดระดับต่ำลงมากเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยในเรือนแพในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ทั้งแพที่อยู่อาศัย และเรือนแพร้านอาหาร แพหลายแห่งปรับระดับน้ำลงไม่ทัน ส่งผลให้อยู่ในสภาพเกยตื้น พื้นแพเกยติดอยู่กับริมตลิ่ง นอกจากนี้ ยังกระทบกับกลุ่มผู้ประกอบการเลี้ยงปลากระชังที่อยู่ท้ายน้ำ ในเขตต.บ้านไร่ และต.โคกสลุด อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลกอย่างมากเช่นกัน
นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ได้ปรับแผนลดการระบายน้ำลง เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง เขื่อนสิริกิติ์มีน้ำอยู่ที่ประมาณ 69 % ขณะที่เขื่อนแควน้อยมีน้ำอยู่ที่ประมาณ 77 % และช่วงที่ผ่าน เขื่อนต้องกักเก็บน้ำไว้จนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 จึงจะถึงวันปล่อยน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ประกอบกับลุ่มน้ำสาขาที่อยู่ท้ายเขื่อนสิริกิติ์ก็มีน้ำไหลออกมาน้อยมาก ช่วงนี้จึงเห็นสภาพแม่น้ำน่านเมืองพิษณุโลกในระดับต่ำมาก
อย่างไรก็ตาม ชลประทานพิษณุโลกได้ร้องขอไปยังเขื่อนสิริกิติ์ให้เพิ่มการระบายน้ำก่อนถึงวงรอบจ่ายน้ำ 1 พย.2555 เนื่องจากผู้ประกอบการเลี้ยงปลากระชังเริ่มได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเขื่อนสิริกิติ์จะปรับการระบายน้ำเพิ่มขึ้น จากเดิมระบายวันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ปรับการระบายเพิ่มเป็นวันละ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่เขื่อนแควน้อย ก็ยังระบายน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรท้ายเขื่อน เนื่องจากช่วงนี้นาข้าวกำลังประสบภาวะขาดน้ำ ไปจนถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2555 จึงจะหยุดการระบายน้ำ และจะทำการปรับแผนการระบายน้ำใหม่