อุบัติเหตุสยองมิวเซเว่นแซงพลิกคว่ำหวิดดับยกคัน

อุบัติเหตุติดภายใน 5 ราย

เมื่อเวลา 19.00 น.ของวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.นพดล  ไม้งาม ร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ มีผู้ติดภายในจำนวนหลายราย ที่บริเวณถนนเลี่ยงเมือง หลังมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังจากรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน และหน่วยกู้ชีพ ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีขาว หมายเลขทะเบียน ญจ 1898 กรุงเทพมหานคร สภาพพลิกคว่ำร่องกลางถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 5 ราย ติดอยู่ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต้องเร่งนำเครื่องตัดถ่าง มาตัดเหล็กออกทันที เนื่องจากภายในรถมีเด็กได้รับบาดเจ็บถึง 3 รายด้วยกัน จากนั้นก็ได้นำส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร  และ รพ.อินเตอร์เวชการ ซึ่งกว่าจะสามารถนำผู้ได้รับบาดเจ็บคนสุดท้ายส่งโรงพยาบาลต้องใช้เวลากว่า 30 นาที เนื่องจากสภาพรถพังยับเยิน และบริเวณหน้ากระโปรงรถมีร่องรอยของไฟไหม้อีกด้วย

 

อุบัติเหตุติดภายใน 5 ราย
อุบัติเหตุติดภายใน 5 ราย

จากการสอบถามผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 5 รายคือ นายวัชรินทร์ ทรัพย์รำลึก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/126 ถนนบางแหวก แขวงบางไผ่ เขตบางแพ กรุงเทพมหานคร ด.ช.ปันศร ทรัพย์รำลึก อายุประมาณ 10 ปี ด.ญ.ภัทรวัฒน์ ทรัพย์รำลึก อายุ 6 ปี บุตรสาวและบุตรชาย ของนายวัชรินทร์ ด.ช.รัฐพล อินชูรัน อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 4 ต.ยางซ้าย อ.เมือง จ.สุโขทัย และเป็นหญิง ไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 35 ปี

ผู้เห็นเหตุการณ์

จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า รถยนต์อีซูซุ มิวเซเว่น คันที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ มีนายวัชรินทร์ ขับรถมาจากจังหวัดสุโขทัย และกำลังไปกรุงเทพมหานคร มาด้วยความเร็ว และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถกำลังจะแซงรถที่อยู่เลนซ้าย รถเกิดเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบ จากนั้นก็มีประกายไฟติดหน้ารถ ซึ่งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็รีบมาช่วยดับไฟ แล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย มานำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากซากรถไปแล้วนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว

 

อุบัติเหตุติดภายใน 5 ราย

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ได้ขับขี่มาจากจังหวัดสุโขทัย และกำลังจะไปกรุงเทพ แต่มาถึงเกิดเหตุรถเกิดยางแตก ขณะกำลังแซงรถ จากนั้นรถได้พลิกคว่ำจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง

/////

 

แสดงความคิดเห็น