“ภูแก้ว รีสอรท์”เปิดตัว”บันจี้จัมพ์”กีฬาท้าความเสียว

ที่ภูแก้วรีสอร์ท ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ นายนที เริงสะอาด ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกิจกรรมภูแก้วแอดเวนเจอร์จัดงานเปิดตัวกิจกรรมแอดเวนเจอร์และงานครบรอบ8 ปี”ภูแก้วแอดเวนเจอร์ ปาร์ค แอดเวนเจอร์ เมื่อวันที่7-8 ตุลาคม 2555 โดยมีเด็กนักเรียนหล่มสักและสื่อมวลชนหลายแขนงร่วมเปิดตัวกิจกรรมท่องเที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์

 

หลังจากภูแก้ว แอดเวนเจอร์ ปาร์ค ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสกับเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ดินแดน“สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย”กับกิจกรรมเครื่องเล่นท้าทาย จาก 6 ประเภทเป็น 20 ประเภท ล่าสุดเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่อีก 3 กิจกรรม คือ ดิ่งหอสูง50 ฟุต (Tower Jump) ลักษณะเหมือนบันจี้จัมพ์ ที่ใช้เชือกมัดตัวโดดที่ความสูง 50 ฟุต เป็นกีฬาท้าทายความกล้า พิสูจน์ความเป็นชายของชาวเมลานีเชี่ยน และการแข่งขันจักรยานน้ำ (Aqua Bike) และลูกบอลอวกาศ (Gyro Space) หลังจากกิจกรรม 8 ปีที่ผ่านมา กิจกรรมยิงธนู, ปีนหน้าผา, เหินเวหาข้ามน้ำ, โล้ชิงช้าท้าวัดใจ, รถเลื่อนชาวเขาความเร็วสูงฯลฯได้รับความนิยมต่อเนื่อง

 

นายจุลพงษ์ คุ้นวงศ์ ประธานชมรมท่องเที่ยวธุรกิจเขาค้อ /ทายาทเจ้าของ”ไร่บีเอ็น”เปิดเผยว่า ไร่บีเอ็นจัดงานเฟสติวัลท้าลมหนาวในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมดนตรีจนรีสอร์ทแน่นขนัดทุกครั้ง จากสถิติของ ททท.ยืนยันว่า ร้อยละ 90 ของยอดนักท่องเที่ยวจ.เพชรบูรณ์เดินทางมาเที่ยวอ.เขาค้อล้วนๆ และกว่าร้อยละ90 เป็นนักท่องเที่ยวคนไทย มียอดพักค้างคืนจาก 1 คืนเป็น 2 คืน ปัจจุบันมีรีสอร์ทไม่ต่ำกว่า300 แห่งกระจายไปทั่ว มีรีสอร์ทขนาดใหญ่ๆไม่ต่ำกว่า 7แห่งรวมตัวเป็นชมรมท่องเที่ยวธุรกิจเขาค้อ ยืนยันว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯมาเที่ยวเขาค้อปีละ1.2 ล้านคน เฉลี่ย 2 วัน ค่าใช้จ่ายต่อหัว 1,200 บาทต่อวัน ยืนยันว่า ทุกปีมีตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี หากเทียบกับยอดนักท่องเที่ยวพิษณุโลก มีจำนวน 2 ล้านคนต่อปี แต่มียอดพักค้างแรม 1 คืน

 

แต่ฤดูหนาวปี55 ที่กำลังมาเยือนนี้ ประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวไม่ชัดเจน เพราะวันนี้ ก๋วยเตี๋ยวชามละ 40 บาทบอกว่าแพง แต่กาแฟ ถ้วยละ 40 บาทบอกว่า ไม่แพง ทั้งนี้ ตลอดริมถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก(ถนนหลวงหมายเลข 12 ) กลายเป็นถนนสายกาแฟ เป็นจุดชมวิวเขาค้อ คึกคัก

 

“อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า คนกรุงเทพฯ ย่อมแวะมาพักเขาค้อเหมือนเดิมทุกปี จากสโลแกน”พักเขาค้อ1 คืนอายุยืนอีก 1 ปี” แต่ก็ยังหวั่นๆว่า คนกรุงเทพฯ อาจจะเก็บเงินไว้ออกรถคันแรก บ้างก็ขาดเงิน เพราะนำเงินไปซ่อมแซมบ้านช่วงมหาอุทกภัยปี 54” ทายาทไร่บีเอ็นเผย

แสดงความคิดเห็น