จากปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำ จากปกติเคยขายได้ลูกละ 8-10 บาท กับขายได้เพียงลูกละ 2-3 บาท ทำให้เกิดปัญหามะพร้าวที่เก็บไว้งอกเสีย ไม่สามารถนำไปบริโภคได้
นางสำเนียง แกล้วกสิกิจ อายุ 64 ปี ชาวบ้านหม้อพัฒนา หมู่ที่ 3 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงนำมะพร้าวดังกล่าว มาปลอกเปือก ผ่าตากแดดเนื้อจนมะพร้าวแห้งก่อนนำมาแกะหั่นเป็นชิ้นตากแดดจนแห้งอีกครั้ง นำไปส่งขายให้กับโรงงานคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลวงษ์พาณิชย์ ในราคากิโลกรัมละ 7-8 บาท เพื่อนำไปผลิตน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งการนำมะพร้าวเสียมาแกะขายทำสามารถทำเงินรายให้ครั้งละกว่า200- 300 บาท ส่วนกะลามะพร้าว ยังสามารถขายได้กิโลกรัมละ 1 บาทด้วย
นางสำเนียง กล่าวว่า ปกติเป็นชาวสวน ปลูกผัก ผลไม้ไว้หลายหลายชนิดไว้กินในครอบครัวเหลือก็นำไปขาย ประกอบกับในสวนมีต้นมะพร้าวมาก ทุกปีพ่อค้าจะมารับซื้อถึงในสวนในราคาดีลูกละ 8-10 บาท แต่ช่วงนี้มะพร้าวราคาตก เมื่อเก็บไว้จึงเกิดปัญหามะพร้าวงอกเป็นต้น จึงต้องนำมะพร้าวมาแกะเนื้อขายทำเงินรายได้ให้ครอบครัวอีกเดือนละกว่า 1,000 บาท และยังช่วยคลายเครียดจากช่วงว่างงาน
คุณยาย กล่าวว่ามองดูเป็นอาชีพที่ทำเงินให้ไม่มาก แต่ก็เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพราะเศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้สินค้าหลายชนิดแพง คนใช้เงินไม่เป็น ทำงานไม่เป็น หาเงินไม่ได้ก่อเหตุอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น มองรอบตัวหลายอย่างสามารถทำเงินได้ แค่อย่าท้อและอย่าอาย (คือ อย่าอายทำกินอย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา)