วันนี้(2 ต.ค.) ผู้สื่อข่ารายงานว่าในช่วงนี้ตามตลาดสดต่างๆในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ราคาพืชผักได้มีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นผลพวงมาจากน้ำท่วมตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ผักบางชนิดแพงขึ้นเกือบเท่าตัว โดยเฉพาะราคาผักกาดหอม จากเดิม ก.ก.ละ 40 บาท เพิ่มขึ้นเป็น ก.ก.ละ 70 บาท ผักชี เดิม 80 บาทปรับขึ้นเป็น 120 บาท ต้นหอม จากเดิม 40 บาท ปรับเป็น 55 บาท คื่นฉ่าย เดิม 70 บาทปรับราคาเป็น 150 บาท คะน้า ราคาเดิม ก.ก.ละ 20 บาท ปรับขึ้นเป็น ก.ก.ละ 40 บาท ผักบุ้ง เดิมราคา ก.ก.ละ 20 บาท ปรับขึ้นเป็น 35 บาท แตงกวา เดิมราคา ก.ก. 10 บาท ปรับเพิ่มเป็น ก.ก.ละ 18 บาท
นางสังวอน เรือนก้อน แม่ค้าผักตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ บอกว่า หลังจากน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และใกล้เคียงเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ส่งผลให้พืชผักได้มีการปรับราคาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผักของเกษตรกรได้ถูกท่วมจนเสียหาย บางชนิดต้องรับผักมาจากต่างจังหวัด อาทิ ต้นหอม รับมาจากจังหวัดลำพูน และอุตรดิตถ์ ผักชีฝอย รับมาจากกรุงเทพ คะน้า รับมาจาก จ.เพชรบูรณ์ แตงกวา รับมาจากแม่สอด จ.ตาก บางชนิดก็ขาดตลาดไม่มีขาย เช่น กะหล่ำ ทุกร้านในตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจแทบจะไม่มีขายเลย โดยการปรับราคาผักนี้ได้มีขึ้นราคามาเกือบ 1 อาทิตย์แล้ว และคาดว่า สิ้นเดือนตุลาคม นี้ผักต่างๆก็จะลดลง ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงปลายเดือนนี้ก็จะเป็นเทศกาลกินเจด้วย ผักก็อาจจะยังคงราคาแพงอีกสักระยะ ซึ่งผักได้มีการปรับราคานี้ ทางลูกค้าก็ยังคงมาเลือกซื้อเป็นประจำทุกวัน เพียงบ่นนิดหน่อย ว่าผักแพง แต่ก็ต้องเลือกซื้อไปประกอบอาหารเช่นเดิม บางคนอาจลดปริมาณการซื้อเท่านั้น
/////