“ปรีชา” Comeback “ ชัยโรจน์” กลับนครสวรรค์

ปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.นครสวรรค์จะย้ายกลับมานั่งตำแหน่งผวจ.พิษณุโลกอีกรอบ

วันที่ 26 กันยายน 2555 โผโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยได้รับการกล่าวถึงกันมากในจังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากโผครั้งนี้ เป็นการโยกย้ายสลับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สลับกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์อีกครั้ง เหมือนการโยกย้ายเมื่อ 5 เดือนก่อน ตามโผนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์จะกลับมาถิ่นเก่า นั่งตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ขณะที่นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ก็ย้ายกลับไปถิ่นเก่าเช่นเดิม กลับไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์

เช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ถึงการโยกย้ายสลับตำแหน่งดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เป็นการโยกย้ายตามปกติของกระทรวง ปีนี้มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ปลดเกษียณหลายท่าน และต้องมีการปรับโยกย้ายในระดับผู้ว่าราชการจังหวัดหลายตำแหน่ง และตามโผก็จะมีการย้ายสลับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์นายปรีชา เรืองจันทร์ กลับมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ส่วนตนก็ย้ายกลับไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ แต่ในสัปดาห์นี้ยังไม่ได้นำเข้าในมติครม.คาดว่า สัปดาห์หน้า ครม.จะพิจารณาการโยกย้าย

ชัยโรจน์ มีแดง ผวจ.พิษณุโลก ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมบางระกำ 26 กย.55

 

นายชัยโรจน์ เผยต่อว่า ตนย้ายตำแหน่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้ประมาณ 5 เดือน ( ย้ายจากผวจ.นครสวรรค์มารับตำแหน่งผวจ.พิษณุโลก เมื่อ 27 เมษายน 2555 ) การย้ายกลับไปที่นครสวรรค์เหมือนเดิมก็ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะการแก้ปัญหาน้ำท่วม ในลุ่มน้ำยม ตนคุ้นเคยกับพื้นที่นี้อย่างดี เคยเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ และในช่วงที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกก็ร่วมบริหารจัดการน้ำร่วมกับชลประทาน แก้ไขปัญหาน้ำท่วมอ.บางระกำ ที่ ณ ขณะนี้ ถือว่าท่วมในเกณฑ์ปานกลาง ใกล้เคียงกับน้ำท่วมเมื่อปี 2546 แม่น้ำยมได้ท่วมสูงสุดเมื่อ 25 กันยายนที่ผ่านมา และขณะนี้ กำลังเร่งระบายออกสู่แม่น้ำน่านผ่าน คลอง DR 2.8 และ คลอง DR 15.8 คาดว่าปีนี้ น้ำจะท่วมขังประมาณ 40 วัน และคงสามารถระบายออกได้หมดภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้เกษตรได้ทำนาได้ปีละ 2 รอบ หลังระบายน้ำออกหมด ก็จะเริ่มทำนาปรังรอบแรกในเดือนพฤศจิกายนนี้ทันที เพื่อให้เก็บเกี่ยวได้ในช่วงมีนาคม จากนั้นเดือนเมษายนก็จะเริ่มทำนาปรังรอบที่สองต่อ เพื่อที่จะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนกรกฏาคม จากนั้นเมื่อถึงฤดูการน้ำท่วม สิงหาคม-ตุลาคม ก็จะว่างเว้นไม่ทำนา

แสดงความคิดเห็น