เวลา 10.00 น.วันที่ 23 กันยายน 2555 พ.ต.ต.รักถิ่น บำรุงศรี สารวัตรเวรสภ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตในก้นบ่อบาดาล กลางทุ่งนาบ้านบึงลำ ม.1 ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างนายสำเริง บุญเซ็ง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/6 ม.1 ต.นครป่าหมาก สภาพนอนหงายอยู่ในก้นบ่อบาดาลในที่นาของตัวเอง ลึกประมาณ 8 เมตร เหนือแท่นติดตั้งปั้มน้ำที่ก้นบ่อ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานพิษณุโลก ลงไปนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากบ่อ โดยนำส่งนิติเวชรพ.บางกระทุ่มชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต
นายสมพงษ์ อ้นชาวนา ผญบ.ม.2 ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ช่วงนี้ชาวนาในเขตอ.บางกระทุ่ม กำลังทำนา และต้องอาศัยแหล่งน้ำจากบ่อบาดาลเป็นหลัก เมื่อเช้านายสำเริง ผู้เสียชีวิตออกจากบ้านพักไปที่บ่อบาดาลกลางแปลงนาของตนเอง เพื่อไปติดตั้งปั้มน้ำที่ก้นบ่อบาดาล แต่คาดว่าคงจะขาดอากาศหายใจก่อนที่จะถึงก้นบ่อ และพลัดตกลงไป เพราะลักษณะร่างนอนหงาย ทับเครื่องปั้มน้ำที่ก้นบ่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุเศร้าสลด ชาวนาเสียชีวิตในบ่อบาดาล มักจะเกิดขึ้นประจำ ในพื้นที่ทำนาข้าวของจังหวัดพิษณุโลก ที่อยู่นอกเขตชลประทาน และชาวนามักจะใช้น้ำจากบ่อบาดาลผิวดิน ที่มีความลึกประมาณ 8-10 เมตร โดยต้องติดตั้งเครื่องปั้มน้ำที่ก้นบ่อ การเสียชีวิตทั้งหมด มาจากการขาดอากาศหายใจ เมื่อลงไปถึงก้นบ่อแล้ว จะไม่มีอากาศเพียงพอ เฉพาะในต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม ก็เคยมีเหตุเช่นนี้ครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อ 16 มิถุนายน 2552 ที่ม.6 ต.นครป่าหมาก สามีภรรยาเสียชีวิตด้วยกันทั้งคู่ ฝ่ายสามีลงไปติดตั้งปั้มน้ำในบ่อบาดาลึก 7 เมตร แล้วขาดอากาศหายใจหมดสติ ภรรยาลงไปช่วยขาดอากาศหายใจไปอีกราย และเหตุลักษณะนี้เกิดมาแล้วหลายอำเภอ ทั้งอ.พรหมพิราม อ.วังทอง อ.บางกระทุ่ม และอ.บางระกำ สำหรับปีนี้ เมื่อ 29 มิ.ย. 2555 บ่อน้ำบาดาล บริเวณ ม.2 บ้านคลองใหญ่ ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นายกฤษณะ บุญอ้น อายุ 23 ปี ลงไปหากบในบ่อบาดาลลึก 11 เมตร แล้วขาดอากาศหายใจเสียชีวิตที่ก้นบ่อ