เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 ก.ย. 55 นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก ได้เดินทางไปตรวจสอบการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำยมสายเก่า หรือคลองเมม ถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหาย ทำให้ชาวบ้านหมู่ 11 ต.พรหมพิราม และชาวบ้าน ม.12 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ถูกตัดขาดไม่สามารถใช้สัญจรได้ หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานเข้าดำเนินการซ่อมแซมอย่างเรงด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
หลังจากนั้นทางหน่วยกำลังทหารจาก กองพันทหารช่างที่ 302 กองพลพัฒนาที่ 3 ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ กองทัพภาคที่ 3 ได้มีการขนเครื่องมือหนักและอุปกรณ์เข้าพื้นที่ เพื่อดำเนินการเร่งซ่อมแซมและสร้างสะพานตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีอย่างเร่งด่วนในวันเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการก่อสร้างมาแล้วเป็นเวลา 4 วัน ขณะนี้ยังดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า มาตรวจสอบการก่อสร้างสะพาน ทำไมล่าช้าจากอะไร ทราบว่าแม่น้ำยมสายเก่ามีระดับน้ำสูงขึ้น เนื่องจากน้ำจากสุโขทัยไหลบ่ามาอีกระลอก และสูงขึ้นก่าวเดิมอีก 30 เซนติเมตร การก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จคาดว่าจะใช้การได้สมบูรณ์ ตอนนี้ได้เสนอทางกรมโยธาให้ตั้งงบประมาณก่อสร้างพานที่บริเวณจุดนี้คู่กัน เป็นสะพานคอนนกรีตเสริมเหล็ก กำลังตั้งงบประมาณเสนอ ถ้าได้งบมาก็จะดำเนินการทันที เพราะสะพานจุดนี้มันเก่ามากแล้ว
พ.อ.สมใจ คิดเกื้อการุณ ผู้บังคับกองพันทหารช่าง 302 กล่าวว่า คาดว่าในวันนี้จะสามารถสร้างสะพานเหล็กแล้วเสร็จภายในวันนี้ ถ้าไม่มีอุปสรรคอะไรเพิ่มมาอีก ซึ่งจะสามารถใช้สัญจรไปมาได้ ทั้งผู้คนและรถจักรยานยนต์ สาเหตุที่ล่าช้า เพราะว่าช่วงแรกสะพานพังเสียหายเพียง 10 เมตร แต่ต่อมาระดับน้ำเพิ่มกระแสน้ำพัดสะพานทรุดตัวไปอีก 20 เมตร จึงต้องมีการสร้างเพิ่มเติมจากเดิมอีก แส่วนการทำงานมีปัญหากระแสน้ำไหลเชียวกราก ทำให้ยากต่อการตอกตอมอลำบาก และต้องตอกลึกกว่า 10 เมตร นอกจากนั้นในการขนย้ายอุปกกรณ์เครื่องมือต้องใช้เส้นทางอ้อมจากเดิมไกลออกไปเพิ่มอีก 40 กิโลเมตร เพราะเส้นทางที่สัญจรปัจจุบันทั้งเล็กและแคบมาก ทำการขนในเส้นทางระยะใกล้ไม่ได้ ทำให้เสียเวลามากการการขนย้ายเครื่องมือแต่ละครั้ง