วันที่ 18 กันยายน 2555 สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพิษณุโลกยังคงได้รับผลกระทบหนักจากแม่น้ำยมล้นตลิ่งในเขตพื้นที่ 3 อำเภอ อ.พรหมพิราม อ.เมือง และอ.บางระกำ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 63,600 ไร่ และยังคงขยายพื้นที่ถูกน้ำท่วมต่อไปอีก เนื่องจากน้ำที่ท่วมในเขต จ.สุโขทัย กำลังไหลลงมาผ่านแม่น้ำยมสายหลัก และแม่น้ำยมสายเก่า และอีกส่วนหนึ่งได้ไหลท่วมทุ่งเข้ามาท่วมพื้นที่นาข้าวในเขตจังหวัดพิษณุโลก ที่ส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวหมดแล้ว มีได้รับผลกระทบน้ำท่วมนาข้าวบ้างในเขตต.วังวน ต.พรหมพิราม และต.หนองแขม อ.พรหมพิราม และต.คุยม่วง อ.บางระกำ
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้าขึ้น เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ที่บริเวณ บ้านวังขี้เหล็ก หมู่ 10 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยตั้งเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว มีเครื่องไม้เครื่องมือในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ทั้งเรือท้องแบน เรือพลาสติก หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และครัวรัฐบาล เพื่อบริการประชาชนตลอด 24 ชม.
ด้านนายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า น้ำยมที่หลากมาจาก จ.แพร่และสุโขทัย จะมาไหลรวมกันที่อ.บางระกำ โดยแม่น้ำยมในเขตอ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เพิ่มระดับเฉลี่ยชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร หรือวันละประมาณ 20 เซนติเมตร ขณะนี้ระดับน้ำยมที่สถานีวัดระดับน้ำ Y 16 หลังที่ว่าการอำเภอบางระกำ มีความสูง 7.82 เมตร สูงกว่าความจุของลำน้ำที่ 7 เมตร ในภาพรวมแล้ว มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำยม 3 อำเภอ คือ อ.พรหมพิราม ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก และอ.บางระกำ กินเนื้อที่ประมาณ 63,600 ไร่ แต่ยังถือว่าไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 ขณะนี้ ชลประทานได้ระบายน้ำที่ท่วมขังออกลงสู่แม่น้ำน่าน ผ่านคลอง DR 15.8 ในอัตรา 60 ลบ.ม.ต่อวินาที และคลอง DR 2.8 ในอัตรา 185 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบพื้นที่น้ำท่วมในเขตอ.บางระกำ
/////