ที่ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการและร่วมกันวางแผนในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้มีการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในแต่พื้นที่ และให้หน่วยงานต่างๆ บูรณางานการทำงานร่วมกัน เช่น รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวัน การเตรียมการช่วยเหลือในการอพยพสิ่งของ สัตว์เลี้ยง การจัดหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่เข้าไปดูแล การจัดสายตรวจเข้าไปอำนวยความปลอดภัยสำหรับประชาชนที่อพยพออกมาอาศัยอยู่บริเวณริมถนน การช่วยปรับเกรดถนนหนทางเพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน ส่วนสะพานที่ขาดที่ อ.พรหมพิรามได้มอบให้หน่วยงานที่รับผิดชอบประสานสำนักงานกับสำนักงบประมาณ เพื่อของบสร้างสะพานเหล็กให้มีความคงทนแข็งแรง
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สำหรับน้ำระลอกที่ 2 จากจังหวัดสุโขทัย ที่จะเดินทางมาถึงจังหวัดพิษณุโลก ในช่วงของ 1 – 2 วันนี้ แม่น้ำยมจะมีปริมาณสูงขึ้นอีกประมาณ 20 -100 ซม. พื้นที่ที่จะได้รับ ผลกระทบได้แก่ อ.บางระกำ อ.เมืองบางส่วนและ อ.พรหมพิราม ซึ่งเดิมพรหมพิราม มีจำนวน 881 ครัวเรือน บางระกำ 50 ครัวเรือน โดยบางระกำอาจได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1000 ครัวเรือน และวันที่ 19 กันยายนนี้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์จะนำ ถุงยังชีพเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ตำบลชุมแสงสงคราม 500 ชุด และตำบลท่านางงานอีก 500 ชุด
นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้ว ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากประชนในพื้นที่เป็นอย่างดีในการปรับฤดูทำนาและเก็บเกี่ยวจนแล้วเสร็จ ซึ่งอาจมีบางส่วนที่ทำนาล่าช้า หรือกลับมาลงมือทำใหม่ อาจได้รับผลกระทบบ้าง ประชาชนในพื้นที่ได้ทำใจและปรับตัวที่จะรับสภาพในการเปลี่ยนวิถีชีวิตโดยทำนา 8 เดือน และอีก 4 เดือน หันมาประกอบอาชีพทำการประมง ทำน้ำปลา ทำปลาร้า ออกจำหน่ายเพื่อหารายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว แทน
////
แสดงความคิดเห็น