เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.ย. พ.ต.ท.พิสิษฐ อุ่นใจ พนักงานสอบสวน(สบ.3) สภ.พรหมพิราม รับแจ้งจากชาวบ้านตลุกกระเทียม ว่ามีชาวบ้านถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณปลายทุ่งนา ม.1 ต.ตลุกกระเทียม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลพรหมพิราม และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาโล่งกว้างประมาณ 14-15 ไร่ และมีเสาไฟฟ้าแรงสูงตั้งอยู่ในพื้นที่นาดังกล่าว ซึ่งบริเวณปลายทุ่งนาพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1ราย ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายสุทัศน์ แย้มสังข์กุล อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.4 ต.ตลุกกระเทียม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ลักษณะนอนหงายเสียชีวิตเนื่องจากถูกไฟผ่า ช่วงบริเวณศีรษะและลำตัวพาดอยู่ที่คันนาส่วนปลายเท้าอยู่ในลักษณะราบไปกับพื้นนาที่มีน้ำเจิ่งนอง ลักษณะการแต่งกายสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีกรมท่า สวมกางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมกางเกงชั้นใน เสื้อผ้าของผู้ตายอยู่ในสภาพไหม้ขาดลุ่งลิ่ง และเมื่อตรวจสอบบาดแผลตามร่างกาย พบว่าผิวหนังบริเวณศีรษะด้านขวาข้างกกหูมีรอยไหม้สีดำและมีเลือดไหลออกมา ที่ลำตัวรวมปลายเท้าทั้งสองข้างเป็นรอยไหม้พองตลอดทั้งตัว ข้างๆ ร่างผู้เสียชีวิตพบจอบตกอยู่ด้วย 1 อัน
จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า นายสุทัศน์ฯ ผู้เสียชีวิตและเพื่อนบ้านได้ขี้รถจักรยานยนต์เพื่อที่จะมาดูนาของตนเองที่จ้างคนหว่านไว้ และได้นำจอบติดตัวมาด้วยเพื่อที่จะขุดทำเป็นร่องเพื่อระบายน้ำออกจากผืนนา แต่ระหว่างที่เดินไปปลายทุ่งนานั้นได้เกิดเมฆและมีสายฝนโปรยปรายลงมา ซึ่งจุดที่ผู้เสียชีวิตเดินอยู่บนคันนานั้นมีเสาไฟฟ้าแรงสูงตั้งอยู่ประกอบกับจอบที่ผู้ตายถือพาดบ่ามาและเป็นพื้นที่โร่ง จึงเกิดสายฟ้าผ่าลงมาผ่านจอบเข้าร่างของผู้ตายก่อนที่จะลงใต้ผิวดินเป็นเหตุให้นาย สุทัศน์ฯ เจ้าของที่นาเสียชีวิตคาที่ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรอีกครั้งก่อนที่จะติดต่อให้ญาตมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป