นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ นายกสมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า “สมาคมกีฬาหมากล้อมฯ จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามจัดการแข่งขันกีฬาหมากล้อมมหาวิทยาลัยชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี 2555 (ASIAN UNIVERSITY GO TOURNAMENT 2012) และการแข่งขันหมากล้อมอุดมศึกษาชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 (U – GO XVII) ระหว่างวันที่ 13 – 15 ตุลาคม 2555 ณ ศูนย์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนล่าง มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ส่วนวังจันทร์ จังหวัดพิษณุโลก”
ในการแข่งขันกีฬาหมากล้อม ASIAN UNIVERSITY GO TOURNAMENT 2012 ปีนี้มีนักกีฬาจาก จีน เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเซีย ลาว สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย ร่วมการแข่งขัน ส่วนกีฬา หมากล้อมอุดมศึกษาชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 (U – GO XVII) ได้รับการตอบรับจากสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศส่งกีฬานักหมากล้อมร่วมการแข่งขันมากเป็นประวัติการณ์คาดว่าทั้งสองรายการรวมกันจะมีนักหมากล้อมกว่า 250 คนลงชิงชัย ซึ่งจะทำให้การแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย สำหรับผู้เข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้ แชมป์เก่า Hsiao Cheng Haoจากไต้หวันประกาศเดินทางมาป้องกันแชมป์ถึงประเทศไทย ส่วนความหวังของไทยอยู่ที่ กมล สันติพจนา นักกีฬาดาวรุ่งฝีมือระดับ 5 ดั้ง ตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันกีฬาหมากล้อมจีนโลกที่ผ่านมา พ่วงดีกรีแชมป์เกษตรศาสตร์ โอเพ่น ครั้งล่าสุด
ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ซึ่งเป็นเจ้าภาพในปีนี้ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยฯมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่การแข่งขัน ที่พักนักกีฬา รวมถึงบุคลากรทีมงานทุกฝ่าย โดยทีมงานของมหาวิทยาลัย ได้เดินหน้าจัดเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านสถานที่ ซึ่งใช้อาคารศูนย์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนล่างเป็นอาคารที่สร้างใหม่ ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยฯ ส่วนวังจันทน์ ซึ่งมีความโดดเด่นเป็นแลนด์มาร์คใจกลางเมืองพิษณุโลก ซึ่งจะเปิดใช้ในงานนี้เป็นงานแรก
นายกสมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทยยังเพิ่มเติมด้วยว่าการแข่งขันครั้งนี้จะช่วยปลุกกระแสกีฬาหมากล้อมในประเทศไทยให้ตื่นตัวมากขึ้น โดยเป้าหมายของสมาคมคือการเพิ่มจำนวนผู้เล่นในประเทศที่ปัจจุบันมีมากกว่า 1 ล้านคน ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่าปัจจุบันนี้ศักยภาพของนักกีฬาหมากล้อมไทยไม่เป็นสองรองใครหากได้รับการผลักดันอย่างจริงจังทั้งจากภาครัฐและเอกชน ก็จะทำให้สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติได้เป็นอย่างดี