สุโขทัยอ่วมน้ำท่วมเขตเศรษฐกิจชั้นใน

ที่จังหวัดสุโขทัย เมื่อเวลา 20.30 น. ค่ำวานนี้ 9 ก.ย 55  รายงานว่า จากปริมาณระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ไหลผ่านพื้นที่จังหวัดสุโขทัยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเต็มตลิ่งทำให้เกิดภาวะกระแสน้ำในแม่น้ำยมกัดเซาะพื้นผิวจราจรถนนเลียบฝั่งแม่น้ำเอ่อทะลักเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีบริเวณตลาดสดริมแม่น้ำยม  ถ.ราชธานี  ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย อย่างรวดเร็ว  โดยกระแสน้ำดังกล่าวได้ไหลกระแทกกัดเซาะแนวเขื่อนเรียงหินริมแม่น้ำยมจนเสียหายเป็นทางยาวประมาณ 10 เมตร  ก่อนที่จะทะลักขึ้นมาจากรอยต่อใต้แนวผนังคอนกรีตถนนเลียบแม่น้ำยมซึ่งทางเทศบาลสร้างป้องกันน้ำท่วมไว้  ส่งผลทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมในบริเวณดังกล่าวอย่างรวดเร็ว  ความสูงประมาณ 50ซม. บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ที่ขายผลไม้อยู่ในบริเวณดังกล่าว ต้องรีบขนย้าย ข้าวของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น   รวมทั้งกระแสน้ำที่ไหลทะลักแผ่ขยายเป็นวงกว้างเข้าสู่ย่านเศรษฐกิจกลางเมืองสุโขทัยอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน

 

 

นายพิเชฐ ไทยกล้า  นายกเทศมนตรีพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และ จนท.กว่า 100 นาย ได้รุดเข้าตรวจสอบในพื้นที่ทันทีที่เกิดเหตุโดยในเบื้องต้นได้ระดม จนท.ของเทศบาล ขนกระสอบทรายกว่า 5,000 ลูก  วางแนวป้องกันสูงถึง3ชั้น เพื่อเปลี่ยนทางเดินของน้ำ บังคับให้กระแสน้ำที่ทะลักขึ้นมาไหลลงท่อระบายน้ำบริเวณใกล้เคียงมิให้ไหลทะลักเข้าท่วมเป็นวงกว้างซึ่งก็สามารถป้องกันได้ในเบื้องต้นเท่านั้น         

 

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 10 ก.ย 55  ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุโขทัยว่า  ภาวะน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานียังคงขยายวงกว้างไปทั้งเมืองโดยบางจุดต้องดับกระแสไฟฟ้าชั่วคราวเพื่อป้องกันอันตราย ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่น้ำท่วมยังคงต้องขนข้าวของอพยพหนีน้ำกันต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจากเหตุระดับน้ำท่วมพื้นที่สูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจการค้าชั้นในของเขตเทศบาล ฯ ระดับน้ำท่วมสูงจากผิวจราจรกว่า 1 เมตร พร้อมไหลบ่าเข้าท่วมอาคารร้านค้าบางส่วนอย่างต่อเนื่องจนต้องขนข้าวของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น

 

ด้านนายจักริน   เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย  ซึ่งรีบรุดลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยพร้อมสั่งการและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ระดมกำลังเข้าช่วยชาวบ้านในพื้นที่น้ำท่วมแล้วได้เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้มีการเร่งบรรจุกระสอบทรายขนาดใหญ่หรือที่เรียกว่า บิ๊กแบ๊ค เพื่อนำไปทิ้งอุดรอยกัดเซาะของกระแสน้ำจากแม่น้ำยมให้อุดรูรั่วที่ถูกกัดเซาะให้ยุติลงให้ได้ โดยเจ้าหน้าที่จะทำงานกันตลอดของค่ำคืนวันนี้  พร้อมกันนั้นได้ประสานเรือท้องแบนจาก ตชด. ค่ายรามคำแหง จำนวน 3 ลำ พร้อมกำลังพล 24 นาย และ นักศึกษาจากวิทยาลัยพลศึกษากว่า 50 คนเข้าช่วยในการอพยพและช่วยขนข้าวของของผู้ประสบภัยเพื่อนำไปไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว

 

บรรยากาศช่วงเช้าของวันที่ 10 กันยายน 2554 ของเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีในพื้นที่น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจชั้นในค่อนข้างเงียบเหงาอาคารร้านค้ายังไม่สามารถเปิดการทำมาค้าขายได้ ขณะที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารสดในตลาดสดเทศบาล ฯ ต้องอพยพออกมาขายของกันอยู่ริมถนนโดยเฉพาะบริเวณเชิงสะพานพระร่วงและบนสะพานพระร่วงซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำยมกลางเมืองสุโขทัยโดยปักหลักค้าขายกันบนสะพานดังกล่าวเป็นการชั่วคราวจนกว่าภาวะน้ำท่วมจะคลี่คลาย

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม ยังไม่คลี่คลายระดับน้ำยังคงท่วมในพื้นที่ต่อเนื่องจากสาเหตุทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถสกัดการพังทลายของการกัดเซาะถนนเลียบแม่น้ำได้กระแสน้ำในแม่น้ำยมยังทะลักท่วมต่อเนื่องตลอดเวลา โดยในช่วงเช้าของวันนี้จะมีการนำเครื่องจักรกลหนักนำเอาบิ๊กแบ๊คบรรจุทรายหนักกว่า 1 ตัน จำนวน 100 ถุงเข้าถมจุดรั่วกัดเซาะของแม่น้ำยมคาดว่า น่าจะสามารถยับยั้งกระแสน้ำได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วงเนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำยมยังคงสูงอย่างต่อเนื่องเหตุเพราะน้ำเหนือจากทางจังหวัดแพร่ไหลเข้ามาสมทบอาจทำให้ยังคงเกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ต่อเนื่องไปอีก 2-3 วันข้างหน้า ซึ่งทางจังหวัดสุโขทัยได้เตรียมการป้องกันไว้แล้วอย่างเต็มที่

 

ขอบคุณข้อมูลข่าวภาพ – ทีมข่าวสุโขทัยฮอตนิวส์

แสดงความคิดเห็น