นายสิทธิชัย แก้วประสิทธิ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 หมู่ 11 ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ชาวนาอำเภอวังทอง เปิดเผยว่า ตนเองทำนาจำนวน 13 ไร่ ซึ่งอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ ข้าวจึงจะถึงอายุเก็บเกี่ยว แต่ปรากฏว่า ในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้นาข้าวของตนเองขณะนี้กำลังประสบปัญหาน้ำจากเทือกเขา ไหลเข้าท่วมนาข้าวที่อายุใกล้เก็บเกี่ยว ทำให้ต้องเร่งจ้างรถเกี่ยวข้าวมาทำการเกี่ยวข้าวหนีน้ำ ก่อนที่ต้นข้าวจะจมน้ำเสียหายทั้งหมด
ด้าน นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก ได้ประสานไปยังโครงการชลประทาน จ.พิจิตร ให้ เปิดประตูระบายน้ำทุกแห่งที่เชื่อมลงสู่แม่น้ำน่านเพื่อช่วยเร่งระบายน้ำป่า จาก อ.วังทอง อ.เนินมะปราง อ.บางกระทุ่ม ที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วม ขณะนี้น้ำที่ท่วมในเขตต.เนินกุ่ม อบางกระทุ่ม อยู่ในภาวะปกติแล้ว ในระยะนี้ ประชาชนที่อยู่ในเขตลุ่มน้ำชมพูควรระมัดระวังน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากมีฝนตกหนักในเขตเทือกเขาเพชรบูรณ์ ควรเฝ้าระวังระดับน้ำและปริมาณน้ำฝนตั้งแต่เขตต.ชมพู อ.เนินมะปราง ลงมาถึงเขตต.ท่าหมื่นราม ต.พันชาลี อ.วังทอง และอ.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม
นายบรรดิษฐ์ เผยต่อว่า สำหรับสภาวะน้ำท่วมในเขตจังหวัดพิษณุโลกนั้น ขณะนี้ยังไม่มีพื้นที่ประสบเหตุรุนแรงในลุ่มน้ำน่านอยู่ในภาวะปกติ ลุ่มน้ำภาค อ.ชาติตระการ และลุ่มน้ำแควน้อย อ.นครไทย ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แม้ฝนจะเพิ่ม แต่ปริมาณน้ำทั้งสองลุ่มน้ำก็จะไหลลงเขื่อนแควน้อยทั้งหมด ส่วนลุ่มน้ำวังทองระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ลุ่มน้ำยมนั้น ขณะนี้เริ่มมีการระบายน้ำผ่านมาทางคลองหกบาท ลงแม่น้ำยมสายเก่า หรือ คลองเมม น้ำอาจจะล้นแม่น้ำยมสายเก่าบ้าง แต่เป็นพื้นที่นาข้าวที่เก็บเกี่ยวหมดแล้ว ขณะที่เขตอ.บางระกำ ช่วงนี้น้ำจากจังหวัดแพร่ กำลังเดินทางเข้าสู่จังหวัดสุโขทัย จะเพิ่มปริมาณสูงขึ้นในระยะ 4-5 วันนับจากนี้ คาดว่าจะล่นตลิ่งในเขตม.9 บ้านตระแบกงาม ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ เป็นช่วงแรก