โดย…..คมดงเสือ
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมจะค่อนข้างเดินทางออกจากต่างจังหวัดบ่อยครั้ง แต่ก็ได้เดินทางมีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวที่ “บึงสีไฟ” จ.พิจิตร อีกครั้ง (ครั้งสุดท้ายนานมาก) เดี๋ยวนี้การเดินทางไปเที่ยวที่ “บึงสีไฟ” สะดวกกว่าเมื่อ 15 ปีที่แล้ว มีการตัดเส้นทางลัดจากบ้านผม (บ้านนา ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร) ทำให้เวลาขับรถไปถึงบึงสีไฟ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
บึงสีไฟ ปัจจุบัน ได้เปลี่ยนจากเดิมไปมาก แต่ก่อนนั้นก็จะมีพญาชาละวัน ไอ้เข้ตัวใหญ่ยักษ์ ที่ทุกคนเมื่อไปเที่ยวชม ก็ต้องไปถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า ซึ่งเปรียบเสมือนสัญญาลักษณ์ของบึงสีไฟ แห่งนี้ และก็มีศาลาเก้าเหลี่ยม ที่เลี้ยงเจ้าจระเข้ ตัวน้อย บึงก็จะมีแต่ผักตบชวา และหญ้ารก แต่ยุคสมัยนี้ ได้เปลี่ยนไปแบบแปลกตามากครับ มีการปรับปรุงพัฒนาเรียกว่าเกือบทุกสิ่งเพื่อให้เป็นสวนสาธารณะ หรือปอดของจังหวัดพิจิตรทีเดียว
แต่สิ่งเดียวที่ไม่แตกต่างจากอดีต ที่ผมเคยไปเที่ยวบึงสีไฟ นั้น คือ เมื่อมาถึงบึงสีไฟ ก็จะต้องรีบไปถ่ายรูปเจ้าพญาชาละวันตัวใหญ่ ผมไม่รู้ว่ามันมีอายุเท่าไร ผมเชื่อว่าไม่น่าจะไม่ต่ำกว่า 30-40 แล้วมั้ง….เพราะผมเกิดมาก็รู้จักแล้วครับ เด็กๆๆทุกคนจะชอบมากเจ้าพญาชาละวันนี้….
หลังจากตื่นตาตื่นใจกับเจ้าพญาชาละวัน แล้ว ผมและครอบครัว ก็จะเดินรอบๆบริเวณบึงสีไฟ ที่มีการปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะ และสวนงามจัดเป็นมุมเด็กๆ มุมน้ำตก สนามหญ้า และหาดทรายเทียม เพื่อให้ประชาชนได้สามารถเลือกพักผ่อนตามอัธยาศัย ส่วนตัวบึง ก็มีปรับให้นักท่องเที่ยวได้สามารถปั่นจักรยานน้ำ ได้อย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ก็จะมีศาลายื่นเข้าไปในบึง สำหรับเลี้ยงปลาจำนวนมาก หากนักท่องเที่ยวไปให้อาหารปลา ก็จะเห็นฝูงปลาน้อยใหญ่ขึ้นมากินอาหารกันอย่างสนุกสนานทีเดียว เห็นแล้วมีความสุขไม่ใช่น้อย
นอกจากนี้ที่เป็นสัญญลักษณ์ของบึงสีไฟ ที่ผมบอกกล่าวข้างต้น คือ ศาลาเก้าเหลี่ยม ที่สมัยก่อนจะมีการเลี้ยงจระเข้ตัวเล็กไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน แต่เดี๋ยวนี้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ปลาน้ำจืด ที่ให้น้องๆหนูๆ ได้ไปศึกษาหาความรู้กัน จะได้รู้จักปลาหายาก ไม่เคยได้เห็น มาจัดแสดงไว้
บรรยากาศบึงสีไฟในวันนี้ถือว่าร่มรื่น น่าพักผ่อนและออกกำลังกายเป็นอย่างมาก แต่ละทุกเช้าเย็น จะมีประชาชนชาวเมืองชาละวัน ต่างมาออกกำลังกาย และวันหยุดสุดสัปดาห์เสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัดมาเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวกันคึกคักไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปทีเดียว ….อย่างไรก็ตามผมอยากให้นักท่องเที่ยวบ้านเรา ได้ไปเที่ยวชมและพักผ่อนกันที่ “บึงสีไฟ” ของจังหวัดพิจิตร กันดูครับ รับรองว่าจะสนุกและประทับใจไม่รู้ลืมเช่นกัน
/////////////