นายแพทย์บุญเติม ตันสุรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก กล่าวในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำเดือนสิงหาคม 2555 ที่โรงแรมวังแก้ว ว่าตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2555 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มเดินหน้าโครงการร่วมจ่ายค่าธรรมเนียมบริการ 30 บาท ในโครงการหลักประกันถ้วนหน้าตามนโยบายรัฐบาลพร้อมกันทั่วประเทศ โดยจะดำเนินการในระดับโรงพยาบาลชุมชนหรือโรงพยาบาลประจำอำเภอขึ้นไปจนถึงโรงพยาบาลศูนย์อย่างโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก และโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ประชาชนจะร่วมจ่ายในกรณีที่มีการรับยาเท่านั้น หากผู้ป่วยรายใดไม่ประสงค์จะจ่าย 30 บาท ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้
โดยประชาชนในจังหวัดพิษณุโลกที่จะได้รับผลกระทบนี้มี 381,572 คน คือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และประกันสังคม ส่วนผู้ที่เคยได้รับสิทธิยกเว้นการร่วมจ่าย 30 บาทมีทั้งหมด 21 กลุ่ม เช่น อสม. ผู้นำชุมชน ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีอยู่ 322,634 คน ก็จะได้รับการยกเว้นร่วมจ่ายเหมือนเดิม ซึ่งขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดกำลังเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และให้โรงพยาบาลทุกแห่งพัฒนาความพร้อมให้บริการที่ดีขึ้นทุกด้านทั้งผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยเรื้อรัง บริการผู้สูงอายุ ผู้พิการ โดยไม่มีเวลาหยุดพักเที่ยง นอกจากนั้นยังได้ให้สิทธิประชาชนสามารถเปลี่ยนหน่วยบริการที่พอใจได้ปีละ 4 ครั้ง จากเดิมเปลี่ยนได้ปีละ 2 ครั้ง โดยใช้บัตรประชาชนหรือเอกสารทางราชการที่มีเลข 13 หลักเป็นหลักฐาน เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนยิ่งขึ้น สามารถยื่นเปลี่ยนได้ที่สถานบริการสาธารณสุข ส่วนการบริการในโรงพยาบาลชุมชนที่มี 8 แห่งได้จัดแพทย์ตรวจรักษาอย่างน้อย 2 คน
สำหรับโครงการร่วมจ่ายนี้จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนไปใช้บริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ใกล้บ้านมากขึ้น ซึ่งสามารถดูแลประชาชนได้ดี เหมือนโรงพยาบาลใหญ่ ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน ความดัน การตรวจรักษาโรคทั่วไป โดยใช้ระบบการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตพูดคุยปรึกษากับแพทย์ผู้รักษาในโรงพยาบาลใหญ่โดยตรงและยังเป็นการลดความแออัด รอคอยการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลได้อีกด้วย