วันนี้( 23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงแม้ช่วงภาคเหนือสภาพพื้นที่จะมีมรสุมพาดผ่านเกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง แต่พื้นที่ทำการเกษตรบางแห่งเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง ฝนไม่ตกจนประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับทำการเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.วังทอง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก, อ.ทับคล้อ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร, อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และ อ.ขาณุวรลักษณบุรี จ.กำแพงเพชร ได้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการทำนาข้าว และไร่ข้าวโพด เกษตรกรจึงร้องการทำฝนหลวง หวั่นผลผลิตเสียหายเนื่องจากนาข้าวบางแห่งขาดน้ำเริ่มเหี่ยวเฉา โดยเฉพาะพื้นที่ทางการเกษตรของ จ.พิจิตร มีพื้นที่ขาดแคลนน้ำในขณะนี้ถึง 158,000 ไร่ ขณะนี้ทางหน่วยปฎิบัติการฝนหลวงได้เร่งทำฝนหลวงโดยใช้เครื่องคาซ่า และเครื่องคาราแวน จำนวน 3 ลำ ทำฝนหลวงวันละ 5 – 6 เที่ยวบิน คาดว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรได้ เนื่องจากสภาพความชื่นในสัปดาห์นี้เหมาะสมหลังการทำฝนหลวงก็พบว่ามีฝนตกในพื้นที่เป้าหมาย
นายกิตติ ธูปศรี หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลกได้ปฏิบัติหน้าที่ทำฝนหลวงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง คือ จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร จ.กำแพงเพชร จ.เพชรบูรณ์ จ.อุตรดิตถ์ จ.ตาก และ จ.สุโขทัย เพื่อเป็นการช่วยเหลือภัยแล้งในพื้นที่ดังกล่าว โดยทางหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก จะปฏิบัติหน้าที่ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน หากพื้นที่ใดยังคงประสบปัญหาแล้ง และร้องขอมา ทาหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ก็จะบินทำฝนให้ เพื่อช่วยสถานการณ์ภัยแล้งอีกระยะหนึ่ง
////