นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า ด้วยพิษณุโลกเป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง เหมาะต่อการจัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีทางลำน้ำ นั่นคือ การแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน โดยการร่วมแรงร่วมใจของจังหวัดพิษณุโลก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เทศบาลนครพิษณุโลก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 3มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยนเรศวร ชมรมเรือยาวจังหวัดพิษณุโลก พ่อค้า ประชาชน จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 15-16 กันยายน 2555 ณ ลำน้ำน่านหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร การแข่งขันแบ่งออกเป็น
1. เรือยาวใหญ่ประเภท ก. ( ฝีพายตั้งแต่ 41 คน ไม่เกิน 55 คน )
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมรางวัลเงินสด 50,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินสด 40,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินสด 30,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้รับเงินสด 20,000 บาท
2. เรือยาวใหญ่พื้นบ้าน ( ฝีพายตั้งแต่ 41 คน ไม่เกิน 55 คน )
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยประทานของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมรางวัลเงินสด 18,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินสด 15,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้รับเงิน 8,000 บาท
3. เรือยาวกลาง ประเภท ก. (ฝีพายตั้งแต่ 31 คน ไม่เกิน 40 คน)
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสด 20,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินสด 15,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย รางวัลเงินสด 7,000 บาท
4. เรือยาวเล็ก ประเภท ก. (ฝีพายไม่เกิน 30 คน)
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารีพร้อม รางวัลเงินสด 15,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินสด 8,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้รับเงินสด 6,000 บาท
5. เรือยาวเล็ก ประเภท ก. 2 (ฝีพายไม่เกิน 30 คน)
รางวัลชนะเลิศ รางวัลเงินสด 8,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินสด 6,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินสด 4,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้รับเงินสด 3,000 บาท
6. เรือจิ๋ว (ฝีพายไม่เกิน 12 คน)
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยประทานของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี
พระวรราชาทินัดดามาตุ พร้อมรางวัลเงินสด 8,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินสด 6,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินสด 4,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้รับเงินสด 3,000 บาท
7. เรือท้องถิ่น (ฝีพายไม่เกิน 3 คน)
รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่พระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสด 5,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินสด 4,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินสด 3,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้รับเงินสด 2,000 บาท
8. เรือสิงห์สองแคว 7 ฝีพาย ประเภท เชื่อมความสามัคคีระหว่างท้องถิ่น
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยประทานของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้า
สิริวัณณวรีนารีรัตน์ พร้อมรางวัลเงินสด 7,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินสด 5,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินสด 3,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ
รางวัลชมเชย ได้รับเงินสด 2,000 บาท
9. เรือยาวเล็ก ข ภายในจังหวัดพิษณุโลก (ฝีพายไม่เกิน 30 คน)
รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินสด 8,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินสด 6,000 บาท
รางวัลชมเชย ได้รับเงินสด 5,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีสำหรับกองเชียร์เรือยาวที่เข้าร่วมการประกวดกองเชียร์
รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินสด 8,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินสด 6,000 บาท
สำหรับเรือยาวประเพณี ประเภทเรือยาวใหญ่ เรือยาวกลาง เรือยาวเล็ก เรือจิ๋ว และเรือยาวเล็ก ข ภายในจังหวัดพิษณุโลก เรือท้องถิ่น 3 ฝีพาย เรือ 7 ฝีพาย “สิงห์สองแคว” ประเภทเชื่อมความสามัคคีระหว่างท้องถิ่น สมัครได้ที่สำนักการศึกษาเทศบาลนครพิษณุโลก ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ในวันและเวลาราชการ หากมีทีมเรือสมัครเข้าแข่งขันครบตามจำนวนที่คณะกรรมการกำหนดไว้จะปิดรับสมัครทันที โดยมีกำหนดวันจับสลากและประกบคู่แข่งขัน ในวันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน 2555 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมจุฬามณี 1 สำนักงานเทศบาลนครพิษณุโลก
สีสันบรรยากาศเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 15 กันยายน 2555 เป็นต้นไป ด้วยขบวนเรืออัญเชิญถ้วยพระราชทาน ขบวนแห่กองผ้าป่าสามัคคีของทีมเรือที่พร้อมใจกันนำถวายที่วัดใหญ่ และหลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด ความเข้มข้นของการชิงเจ้าลำน้ำน่านจะเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางสายตาของผู้ชมสองฝั่งน้ำ พร้อมกับกองเชียร์ของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครพิษณุโลก และประชาชาชนจากชุมชนย่อยเทศบาลฯ และกองเชียร์จากทีมเรือยาวต่างๆ จะเริ่มต้นขึ้นไปจนจบการแข่งขันทั้ง 2 วัน มาร่วมซึมซับวิถีชีวิตไทยให้คงอยู่คู่สายน้ำน่านไปตราบนานเท่านาน และร่วมเชียร์ทีมเรือในดวงใจโดยพร้อมเพรียงกัน
/////
แสดงความคิดเห็น