110 ปี กองทัพภาคที่ 3 ภารกิจปกป้องประเทศรับใช้ปชช.

 

110 ปี กองทัพภาคที่ 3

นับความเป็นระยะเวลาที่นานกว่า 110 ที่กองทัพภาคที่ 3 กองบัญชาการตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก  ได้ปฏิบัติภารกิจเพื่อความมั่นคงปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่อง จนเหล่าประชาราษฎร์อุ่นใจหากเมื่อเกิดศึกสงคราม และยามสงบ ทหารของกองทัพภาคที่ 3 ก็ได้มีภารกิจในการช่วยเหลือประชาชนอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบกับปัญหาอุทกภัย ทหารเหล่านี้ก็จะไปช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมตามพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งปัญหาภัยแล้ง ทหารตามหน่วยขึ้นตรงของกองทัพภาคที่ 3 ก็ยังไปช่วยเหลือในการแจกน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้เป็นอย่างดีดังคำพูดที่ว่า “ ยามศึกเรารบ ยากสงบเราพัฒนา”

ทหารกองทัพภาคที่ 3 ในอดีต


สำหรับกองทัพภาคที่ 3 ก่อกำเนิด เมื่อ 20 สิงหาคม 2445 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฯ สืบเนื่องมาจากเงี้ยวบ้านบ่อแก้ว แขวงเมืองลอง และบ้านป่าผึ้ง แขวงสูงเม่น จังหวัดแพร่ ได้รวมตัวเป็นกบฏก่อการจลาจล ใช้อาวุธปืนบุกเข้ายึดเมืองแพร่ พระยาไชยบูรณ์ ข้าหลวงกำกับราชการแพร่ ได้รวบรวมกำลังต่อสู้

ยุทธการปราบ ผกค.เชียงราย
ยุทธการปราบ ผกค.เชียงราย
ยุทธการปราบ ผกค.เชียงราย
ยุทการภูขี้เถ้า พ.ศ.2511

และเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2445 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้ พลโทเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เป็นแม่ทัพใหญ่ยกกำลังเข้าปราบปราม ระหว่างทางเมื่อผ่านทางพิษณุโลก พิชัยและอุตรดิตถ์ก็ได้เกณฑ์กำลังไปช่วยด้วย จนสามารถปราบปรามกบฏเงี้ยวได้สำเร็จ เมื่อ 20 สิงหาคม 2445 ในการเดินทางกลับเมื่อผ่านเมืองพิษณุโลก ได้หยุดตั้งค่ายพักแรม และได้พิจารณาเห็นว่าภาคเหนือควรมีทหารประจำการณ์ไว้บ้าง จึงจัดตั้งกองทหารขึ้น 1 กอง ประจำอยู่ที่พิษณุโลก และเป็นที่มาของกองทัพภาคที่ 3ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระ-นเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ติดกับแม่น้ำน่าน มาจนถึงปัจจุบัน โดยถือเอา วันที่20 สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ปราบกบฏเงี้ยวได้สำเร็จ จึงเป็นวันคล้ายวันสถาปนา กองทัพภาคที่ 3 จวบจนถึงปัจจุบันมี พลโท ประพันธ์ กุลพิจิตร เป็น แม่ทัพภาคที่ ๓ คนแรก และพลโท ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ เป็น แม่ทัพภาคที่ 3คนปัจจุบันและเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 คนที่ 33 ซึ่งท่านเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีความพร้อมลักษณะของผู้นำ มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้กองทัพภาคที่ 3 มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นภายใต้คำขวัญที่ว่า “ พร้อมรบทุกสถานการณ์ เป็นทหารอาชีพที่มีเกียรติ เทิดทูน สถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์”

 

พลโทชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3

พลโท ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ เป็น แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 3 เป็นกำลังรบหลักของกองทัพบกที่รับผิดชอบในพื้นที่17 จังหวัดภาคเหนือด้วยเกียรติประวัติที่ยาวนานจากอดีตสู่ปัจจุบัน ครบ 110 ปี แห่งการสถาปนาหน่วย กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งเป็นเกียรติประวัติที่สำคัญยิ่ง โดยมีภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก 4 ประการ คือ การป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยภายใน การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และการช่วยพัฒนาประเทศ ซึ่งจะรวมถึงการปฎิบัติภารกิจต่อภัยคุกคามที่มิใช่สงคราม เพื่อความมั่นคงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน การบรรเทาภัยพิบัติ การช่วยเหลือประชาชน การปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นภารกิจที่กองทัพบกได้รับมอบหมายจากรัฐบาลกองทัพภาคที่ 3 มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขาในภาคเหนือซึ่งถือว่าเป็นแหล่งต้นน้ำ ปัจจุบันถือว่าเป็นภารกิจที่เร่งด่วนและสำคัญ แม้นจะดูแลในพื้นที่ภาคเหนือแต่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ด้วย

 

ทหารกล้า ทภ 3 ร่วมบริจาคโลหิตถวายพระราชกุศล

และเนื่องในวันสถาปนา ครบ 110 ปี ในวันที่ 20 สิงหาคม นี้ ทางกองทัพภาคที่ 3 ได้จัดให้มีพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระสุพรรณกัลยา พร้อมทั้งทำบุญพระภิกษุ อุทิศส่วนกุศลให้แก่ทหารที่ล่วงลับไปแล้ว

อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นภารกิจหน้าที่ของเหล่าทหารในการปกป้องประเทศชาติ เราประชาชนคนไทยก็สามารถร่วมกระทำความดี และเป็นคนไทยที่ดี ก็ถือว่าเป็นการปกป้องประเทศชาติด้วยเช่นกัน

////

ขอขอบคุณภาพสวยๆ จาก ปชส.กองทัพภาคที่ 3

ธเนส อนุดิษฐ/รายงาน

 

 

 

แสดงความคิดเห็น