“น้องได” พาแม่รักษาที่ รพ.พุทธ แพทย์สั่งทำกายภาพ

น้องได พาแม่ไปพบแพทย์

วันนี้( 30 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ “น้องได” นางสาวณัฐธิดา สุปิรัยธร อายุ 18 ปี สาวยอดกตัญญู ที่หยุดเรียนเพื่อมาดูแลนางจรรยาภรณ์ สุปิรัยธร อายุ 48 ปี มารดาที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยในวันนี้ น้องได ได้พานางจรรยาภรณ์ เดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ตามที่ พญ.อังคณา นรเศรษฐ์ธาดา แพทย์อายุรกรรม โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก แพทย์รักษานางจรรยาภรณ์ ได้นัดหมายไว้

น้องได พาแม่ไปพบแพทย์
แพทย์ตรวจอาการ

โดยเมื่อถึงโรงพยาบาลพุทธชินราช แพทย์ได้ทำการเจาะเลือดนางจรรยาภรณ์ ดูอาการข้างเคียงหรือโรคอื่นๆหลังจากนั้น พญ.อังคณา ได้ตรวจร่างกายนางจรรยาพรณ์ ดูก็พบว่า เซล์กล้ามเนื้อเริ่มปกติ ไม่มีผลแทรกซ้อน ถือว่ายาที่ให้ไปนั้นถือว่าตอบสนองเป็นอย่างดี แต่จะต้องให้นางจรรยาภรณ์ พักฟื้นที่โรงพยาบาลพุทธชินราช สักระยะ เพื่อทำกายภาพบำบัด เนื่องจากกล้ามเนื้อ ทั้งเท้า แขน ของนางจรรยาภรณ์ ไม่มีกำลัง ในการเคลื่อนไหวด้วยตนเอง จึงต้องทำกายภาพบำบัดอย่างถูกวิธี

ตรวจรักษา
ภรรดาของน้องได

พญ.อังคณา กล่าวว่า ในวันนี้ทางต้องส่งผู้ป่วย ไปเอ็กซเรย์แม่เหล็กไฟฟ้า ดูทั้งร่างกายอีกหลังจากอาการของกล้ามเนื้อฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตามร่างกายของนางจรรยาภรณ์ ถือว่าพื้นตัวได้เร็วขึ้นกว่าเดิมแล้ว

เยี่ยมคุณแม่น้องได

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในการตรวจร่างกายของนางจรรยาภรณ์  สุปิรัยธร แม่น้องได นั้น ได้มี รศ.นุชนาฏ ดีเจริญ พร้อมด้วย ทัณตแพทย์ ดร.อนุพันธ์ สิทธิโชคชัยวุฒิ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร และอ.สมพิศ ทองสุข ผอ.กองกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มาเยี่ยมอาการคุณแม่น้องได ด้วย พร้อมกับหาแนวทางในการช่วยเหลือน้องได ที่จะศึกษาเหล่าเรียนต่อไปในเทอมที่ 2 โดยทางมหาวิทยาลัยนเรศวร ก็จะมอบทุนการศึกษาให้แก่น้องได ได้เรียนจนจบการศึกษาทันที แต่ต้องขึ้นอยู่กับน้องได ตัดสินใจ

นางสาวณัฐธิดา สุปิรัยธร หรือ น้องได

ด้านนางสาวณัฐธิดา สุปิรัยธร หรือ น้องได กล่าวว่า หลังจากคุณหมอตรวจดูอาการแม่ของตนแล้ว ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่แม่มีอาการดีขึ้นอย่างมาก แต่ต้องทำการกายภาพบำบัดเพื่อให้ร่างกายกลับมาเหมือนเดิม ส่วนตนเองจะตัดสินใจกลับมาเรียนต่อหรือไม่นั้น ขอเวลาตัดสินใจอีก 2 เดือน เนื่องจากยังมีเวลาเปิดเทอมที่ 2 และต้องดูอาการของแม่ด้วยว่า หลังทำการกายภาพนั้นเป็นอย่างไร จะให้แม่และน้องชายอีกคนนอนที่หอพักนิสิต ก็คงลำบากอีก หากแม่อาการไม่ดีขึ้นก็ขอดูแลแม่ไปอีกสักระยะ จนกว่าร่างกายดีขึ้นก็จะกลับมาเรียนทันที

แสดงความคิดเห็น