ช่วงเดือนกรกฏาคม 2555 มีหลายข่าว หลายเหตุการณ์ทำให้ผมและผองเพื่อนต้องตระเวนไปทำข่าวรายงานมานำเสนอและเป็นเรื่องที่มีความผูกผันกับความทรงจำในอดีตของผมมาก ปัญหาความยากจนของเด็กนักเรียนในเขตอำเภอวังทอง ปัญหาสังคมคนชราถูกทอดทิ้งอยู่บ้านตามลำพัง ที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ประกอบวิชาชีพในท้องถิ่นต่างอำเภอ เรียกสั้น ๆ ว่าครูบ้านนอก
ปัญหาความยากจนยังคงเป็นปัญหาคลาสสิกมาก มีอยู่ทุกหนแห่งในเขตต่างอำเภอ หรือ กระทั่งในเขตเมืองที่มีความเจริญก็ตาม แต่นับวัน ในท้องถิ่นต่างอำเภอปัญหาเริ่มมีมากขึ้น ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจ คนในชนบทขายที่ดินทำกินที่เคยบุกแผ้วถางป่าให้กับนายทุนต่างถิ่น แล้วอพยพไปขายแรงงานในเมืองกรุง ปล่อยทิ้งลูกให้ผู้เฒ่าผู้แก่เลี้ยงที่บ้านเกิด ปล่อยให้พ่อแม่คนชราอยู่บ้านตามลำพัง
รอบเดือนกรกฏาคม มีสองเหตุการณ์ของครูบ้านบอก ปฏิบัติหน้าที่เยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ สภาพปัญหาครอบครัว ครูสองท่านประสบปัญหาคล้ายกัน สภาพความเป็นอยู่ของลูกศิษย์ อยู่ในสภาพย่ำแย่ กรณีแรก คุณครูนางอำพร ดีจ่าง อาจารย์ประจำชั้น ป.4 ออกเยี่ยมครอบครัวนักเรียน พบครอบครัวของดญ.รัตติกาล เรืองครุฑ อายุ 10 ขวบ นร.โรงเรียนบ้านน้ำริน ต.บ้านกลาง อ.วังทอง สภาพความเป็นอยู่แร้นแค้น บ้านหลังเล็ก ๆ อาศัยอยู่กัน 5 คน ไม่มีไฟไฟฟ้า ไร้น้ำประปา ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานใด ๆ ไร่เรี่ยกันมา กรณีที่สอง คุณครูบุญทิวา โรจนพานิช หรือ คุณครูหนู ออกเยี่ยมบ้านน้องกระปุก ดญ.พรทิพย์ โสดา นร.อนุบาล 1 โรงเรียนบ้านแก่งสฤษดิ์เสนาอุปถัมป์ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง เห็นสภาพบ้านน้องกระปุกที่อาศัยอยู่กับครอบครัว 4 คน เป็นกะต็อบหลังเก่า ๆ แทบไม่สามารถคุ้นแดดกันฝนได้เลย
คุณครูทั้งสองท่าน ได้ทำหน้าที่ครูอย่างเต็งที่ เฉกเช่นครูบ้านนอกในอดีตที่เคยปฏิบัติกันมา หาทางช่วยเหลือลูกศิษย์อย่างเต็มกำลัง ทั้งระดมทุนทรัพย์ของตนเองและเพื่อนครูมาช่วยเหลือในเบื้องต้น เพียงแต่วันนี้ ครูบ้านนอกสองท่าน ท่านเป็นครูบ้านอกที่เริ่มพูดเสียงดังขึ้นครับ ทั้งสองใช้วิธีเดียวกัน รับทราบปัญหา เข้าช่วยเหลือ และใช้เทคโนโลยีที่พึงมี ทำได้ โพสต์ภาพ เล่าเรื่องราว สภาพความเป็นอยู่ ผ่านเครือข่ายเฟซบุ๊ค มีสังคมออนไลน์ ทำให้ชาวพิษณุโลกและทั่วประเทศ ได้เห็นเร็วขึ้น มีสื่อมวลชนที่ได้เข้าไปนำเรื่องราวมานำเสนอ มีผู้ใจบุญหลากหลายรับทราบข้อมูลผ่านสื่อมวลชน หรือ ผ่านเครือข่ายเฟซบุ๊คของเพื่อนครูทั้งสอง และวันนี้ สภาพความเป็นอยู่ของนักเรียนทั้งสองครอบครัว เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ใจดีมากหน้าหลายตา
สองข่าวช่วยเหลือเด็กนักเรียน ทำให้ผมคิดถึงหนังเรื่องครูบ้านนอก ในอดีตแสดงโดยคุณปิยะ ตระกูลราช ผมคิดถึงเพลงครู ของน้าหมู พงษ์เทพ กะโดนชำนาญ ขับขานบลเพลงสะท้อนชีวิตของครูบ้านนอก และทำให้คิดถึงครูแอ๋ว ครูบ้านนอกขนานแท้ ท่านเสียชีวิตไปสองปีแล้วครับ หลังจากเกษียณมาได้สองปี
ครูแอ๋ว เริ่มต้นชีวิตครูที่โรงเรียนบ้านถ้ำเต่า ต.แม่ระกา อ.วังทอง จากนั้นย้ายไปโรงเรียนหนองพระ อ.วังทอง และหลังสุดย้ายไปโรงเรียนบ้านแก่งสฤษดิ์เสนาอุปถัมป์ อยู่มา 20 กว่าปีจนเกษียณ อยู่โรงเรียบนบ้านแก่งฯ มาตั้งแต่ยังไม่มีถนนสะดวกสบาย ตั้งแต่อาคารเรียนไม้หลังเล็ก ๆ ตั้งแต่มีครูไม่กี่คน และเกษียณอายุราชการ ในหน้าที่สอนชั้นอนุบาล 1 ห้องของน้องกระปุกที่พิษณุโลกฮอตนิวส์นำเสนอ
วันนี้ผมก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันครับ ถ้าครูแอ๋วยังเป็นครูบ้านนอก และสอนอยู่ที่โรงเรียนบ้านแก่งฯอยู่ ครูแอ๋วจะใช้วิธีใด ช่วยเหลือครอบครัวเด็กยากจน เพราะครูแอ๋วไม่รู้จักอินเตอร์เน็ต เปิดคอมพิวเตอร์ไม่เป็น ไม่เคยใช้โทรศัพท์มือถือ เครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ค ครูแอ๋วคงทำไม่เป็น เข้าไม่ถึง แต่ในใจผม ผมคิดว่าช่วย ครูแอ๋วคงหาทางช่วยเด็กแน่นอน ส่วนการกระขายข่าวสารขอความช่วยเหลือจากผู้มีจิตเมตราก็ใช่ปัญหา แค่ครูแอ๋ว ชี้นิ้วสั่งลูกชายอย่างผม ที่ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน ก็พอกระจายข่าวสารได้อยู่ครับ