แม่เฒ่าอัมพฤกษ์ตาบอดถูกทิ้งอยู่ตามลำพัง

วันที่ 17 ก.ค. 55 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า มีแม่เฒ่าป่วยเป็นอัมพฤกษ์ถูกปล่อยทิ้งไว้ภายในบ้านตามลำพังมานานหลายปี ที่บ้านเลขที่ 508/1 หมู่ 7 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายประชัย เกิดไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแก่งโสภา แพทย์หญิงธนวดี สร้อยสุวรรณ แพทย์ประจำ รพ.สต.แก่งโสภาและคณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต.แก่งโสภา นายวิเชียร มีผึ้ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าประตูรั้วปิดล็อกกุญแจไว้  เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อให้ นายสวงค์ มียวน อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นลูกชายมาเปิดประตูให้ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงในบ้านพบ นางสังวาลย์ แซ่ซื่อ อายุ 85 ปี นอนอยู่ในห้องพักชั้นล่างสภาพสกปรกปรกรกรุงรัง ข้างที่นอนมุ้งเก่าๆ มีชามข้าวข้าวเปล่าวางเอาไว้ให้  และมีสิ่งของวางกระจัดกระจายวางไปทั่วห้อง  ส่งมีกลิ่นเหม็นอบอวน  และภายในห้องร้อนอบอ้าว เพราะไม่มีพัดลม จึงได้เข้าทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด และทำการเจาะเลือดตรวจวัดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด เนื่องจากผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานด้วย

จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบว่า คุณยายสังวาลย์ เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลของ รพ.สต.แก่งโสภา แต่มีปัญหาอุปสรรคในการเข้าไปตรวจเยี่ยม เพราะลูกชายจะใส่กุญแจประตูรั้วเอาไว้ทุกครั้งก่อนออกไปทำงาน ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจร่างกายยายสังวาลย์ได้ บางครั้งต้องมีความจำเป็นต้องใช้บันไดปีนรั้วเข้าไปทำการรักษา เพราะยายสังวาลย์ถูกปล่อยให้นอนอยู่คนเดียวมานานเป็นปี จนอาการกำเริบรักษาไม่ตรงเวลา ทำให้ตาบอดทั้งสองข้าง

 

พญ.ธนวดี สร้อยสุวรรณ แพทย์ประจำ รพ.สต.แก่งโสภา กล่าวว่า ปัญหาที่พบคุณยายสังวาลเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เป็นอัมพฤกษ์ เป็นโรคความดัน โรคเบาหวาน และจากการที่รับประทานยาไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง ทำให้อาหารป่วยไม่ได้รับการรักษา เวลานี้คุณยายมีการการแทรกซ้อนคือ ตาเป็นต้อกระจกทั้ง 2 ข้าง พอมองเห็นเลือนลาง เกือบจะบอด หูไม่ได้ยินตามสภาพวัยที่ชรา และจากสภาพดวงตาที่มองไม่เห็นทำให้มองไม่เห็นความสกปรกที่อยู่รอบตัว ซึ่งทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ส่วนเนื้อตัวจากการมาตรวจสอบครั้งนี้สะอาดดี เพราะยายสังวาลย์จะพยายามช่วยเหลือตัวเองโดยคลำทางใช้ถัดก้นขยับพยุงตัวเองไปอาบน้ำได้บ้าง จึงทำให้ไม่มีแผลกดทับ มีพบอาการคันและแผลอักเสบที่เกิดจากการเกาเท่านั้น จึงอยากให้ลูกชายที่ดูแลให้ดูแลด้านความสะอาดที่พักที่นอน และให้คุณยายกินยาให้ตรงตามเวลา แต่ทางลูกชายอ้างว่าต้องออกไปทำงาน เต็ม 1 เดือน ทำงานตั้งแต่เช้าถึงค่ำ มีวันหยุดเพียง5 วัน ทำให้ไม่มีเวลาดูแลเท่าที่ควร  ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถมาดูแลตามวันเวลาได้ เพราะลูกชายปิดประตูใส่กุญแจทุกครั้ง

 

นายสวงค์ มียวน ลูกชาย กล่าวว่า ตนต้องไปทำงานที่วนธารารีสอร์ตทุกวัน ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ต้องทำมาหากินได้รับเงินค้าจ้างเดือนละ 6,000 บาท แต่ก่อนตนมีพี่ชายอีกคนหนึ่งอยู่ติดกัน ได้เอาพาแม่ไปอยู่ด้วย ตอนนั้นแม่ยังแข็งแรงดี แต่ปรากฏว่าแม่หกล้ม 2 ครั้ง จนเป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้  ต่อมาพี่ชายกับพี่สะใภ้ได้อุ้มแม่มาทิ้งไว้ที่หน้าประตูบ้าน ตนจึงต้องนำแม่มาเลี้ยงดูตามมีตามเกิด  ตอนนี้พี่ชายได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่มีลูกของพี่ชาย 4 คน ซึ่งเป็นหลานไม่เคยมาดูแลย่าแม้แต่คนเดียว ทุกวันตนต้องออกไปทำงานรับจ้าง ต้องใส่กุญแจเอาไว้ เพราะกลัวไก่ชนที่เลี้ยงเอาไว้ถูกขโมย ถ้าใครจะเข้าไปดูแลแม่ก็ต้องมาในที่ตนหยุดถึงจะให้เข้าบ้านได้

 

ด้านนายประยุทธ์ ดารายิ้มฤทธิ์ สาธารณสุข อ.วังทอง กล่าวว่า  ปัญหาสังคมแบบนี้เกิดขึ้นมาก  เนื่องจากสภาพปัญหาครอบครัวสังคมเศรษฐกิจ  ต้องออกไปทำงานปล่อยพ่อแม่ผู้สูงอายุเพียงลำพัง บางครั้งยังนำลูกหลานมาทิ้งให้เลี้ยงอีก และไม่มาดูแลหรือช่วยเหลือแต่อย่างใด และยังมีการร้องเรียนภาครัฐไม่มาดูแล ซึ่งความเป็นจริงทางภาครับได้เข้าไปดูแลแล้ว  แต่ยอมรับดูแลไม่ทั่วถึง  ซึ่งจะมีปัญหาแบบนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

แสดงความคิดเห็น