วันที่ 10.00 น. วันที่ 11 กรกฎาคม นายบุญเลิศ แก้วสระแสน ปลัดอำเภอชาติตระการ นายมานพ สายอุ่นใจ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและยาเสพติด จังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ชุด ชป.กอ.รมน.ภาค 3 (ม.พัน.9) ชป.ศขช.ม.พัน.9 เจ้าพนักงาน ปปส. เจ้าพนักงานตำรวจชุด ชปข.กก.ตชด.31 และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.9 (ปากพาน) ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก นำกำลังตรวจสอบบริเวณป่าหลังสำนักสงฆ์สุวรรณโคมคำเลยอ่างเก็บน้ำบ้านห้วยเจียง หมู่ 3 ต.หนองคันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อย หลังรับเรื่องร้องเรียนว่ามีการลักลอบทำไม้อยู่โดยใช้ช้างทำการชักลากไม้ประมาณ 3-5 ตัว ลากข้ามเข้าไปในเขตอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
ขณะเข้าตรวจสอบพบชายไทยจำนวน 1 คน กำลังใช้เลื่อยโซ่ยนต์ทำการตัดโค่นต้นไม้กระยาเลยจำนวน 1 ต้น เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเพื่อจับกุมแต่ผู้ต้องหาวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่จึงวิ่งตามจับตัวไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายวุฒิไกร หรือโข่งหรือเบ๊นซ์ สิงห์คาร อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 2 ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พร้อมของกลางไม้กระยาเลยจำนวน 3 ท่อน เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่องและขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการตรวจวัดไม้ท่อนอยู่นั้นได้นายสายชล หรือชล ปะทุมลาดี อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 10 หมู่ 2 ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ได้เดินออกมาจากป่าเข้ามาตรงบริเวณที่เกิดเหตุพร้อมทั้งตะโกนเรียกชื่อ “โข่ง” ซึ่งเป็นชื่อเล่นของนายวุฒิไกร เจ้าหน้าที่จึงได้ตะโกนตอบนายสายชล จึงได้เดินเข้ามาในที่เกิดเหตุโดยสะพายกระเป๋าสีน้ำตาลไว้ที่ไหล่ขวาจึงควบคุมตัวไว้ และทำการตรวจค้นตัวกระเป๋าสะพายพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 2 ถุง รวมจำนวน 183 เม็ด
จากการสอบสวน นายวุฒิไกร บอกว่าเป็นลูกจ้างของนายสายชล ประทุมลาดี ค่าจ้างวันละ 200 บาท ทำหน้าที่ตัดโค่นต้นไม้และลอกเปลือกไม้ออกเพื่อให้ลื่นในขณะใช้ควายลาก โดยตนเองมาเป็นลูกจ้างได้ประมาณ 1 เดือน และได้เข้ามาตัดโค่นต้นไม้บริเวณนี้เมื่อตอนเช้า ตัดโค่นได้จำนวน 2 ต้น ตัดทอนได้ 3 ท่อน ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับเสียก่อน และในตอนเช้าของวันนี้ตนเองได้นำยาบ้าจากนายสายชลฯจำนวน 1 เม็ดมาเสพก่อนที่จะเข้าไปทำการตัดต้นไม้ โดยตกลงกันว่าจะจ่ายเงินค่ายาบ้าต่อเมื่อได้นำไม้ไปขายแล้ว
เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมนำของกลางยาเสพติด ยาบ้า จำนวน 183 เม็ด ไม้กระยาเลยที่ตัดโค่นเป็นท่อน ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชาติตระการ ดำเนินคดี พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐานร่วมกันทำไม้ หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา 69 ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา 70 ฐาน รับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พุทธศักราช 2507 มาตรา 14 ฐาน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา 34 ฐานรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่า เป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษเสมือนเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น ความผิด พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 มาตรา4 ห้ามมิให้ผู้ใดมี ผลิต หรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์ มาตรา 7 ผู้ใดมีเลื่อยโซ่ยนต์ต้องมีใบอนุญาตหรือสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตสำหรับเลื่อยโซ่ยนต์เครื่องนั้นเพื่อแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทันที และความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ครอบครองไว้เพื่อเสพและจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย
///