นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวชมดอกเปราะภู บนภูหินร่องกล้า หน้าฝนเย็นฉ่ำ

ดอกเปราะภู บนภูหิน

วันนี้( 10 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางไปสัมผัสกับอากาศที่เย็นชุ่มฉ่ำไปด้วยไปด้วยทะเลเมฆ น้ำตกสวยงาม ดอกไม้นานาพันธุ์กำลังผลิบานต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะดอกเปราะภู ที่มีสีขาวสดที่สุดในปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ทำให้จุดสำคัญๆบนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ไม่ว่าลานหินปุ่ม ลานหินแตก และบริเวณรอบๆ ที่ทำการอุทยาน เต็มไปด้วยดอกเปราะภู ที่ขาวสะพรั่ง ไม่เหมือนที่อื่นๆ เนื่องจากดอกเปราะภู ส่วนใหญ่ที่ขึ้นตามอุทยานแห่งชาติ นั้นจะมีแต่สีชมพู แต่ที่อุทยานแห่งชาติ จะเป็นสีขาว เนื่องจากแต่ละภูมิศาสตร์มีสภาพที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ดอกเปราะภู มีสีขาวสดสวยงาม

เทีั่ยวป่าหน้าฝน
เที่ยวป่าหน้าฝน
ดอกเปราะภู

นายสุวรรณ ภานุนำภา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ในช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังคงนิยมขึ้นมาเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคม บรรยากาศป่าหน้าฝนบนภูหินร่องกล้านั้น มีความงดงามไม่แพ้เที่ยวในฤดูหนาว และเป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ความงามให้นักท่องเที่ยวได้ชมเที่ยวป่าหน้าฝนบนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่ระดับความสูง 1,300-1,400 เมตร เมฆฝนจะปกคลุมยอดเขาร่องกล้า ยามที่นักท่องเที่ยวเดินผ่าน เมฆและละอองฝนจะพัดผ่านตัวเป็นไอหมอกขาว สวยงามมาก โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยวชมลานหินปุ่ม ผาชูธง ระยะทางประมาณ 3กิโลเมตรนั้น นักท่องเที่ยวจะได้ชมแหล่งต้นน้ำ ที่ไหลรินผ่านลานหิน ดอกไม้ที่เบ่งบานในช่วงฤดูฝน บานสะพรั่งบนลานหินอีกหลากชนิด อาทิ หงส์ทอง เปราะภู ตามเส้นทางเดินในป่าดิบชื้น สังเกตตามแนวทางเดิน และลานหิน จะพบดอกไม้หลากหลายชนิดบานสะพรั่ง ที่อุทยานตั้งชื่อเส้นทางเดินป่าแห่งนี้ว่า”สวรรค์บนดิน”

 

เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าหน้าฝน

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีพื้นที่ครอบคลุมรอยต่อสองจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ภูหินร่องกล้าเป็นแหล่งกำเนิดของประวัติศาสตร์การ สู้รบอันยาวนานเป็นวีรกรรมของนักรบไทย ความขัดแย้งของลัทธิและแนวความคิดที่นำไปสู่ความสูญเสียเลือด ชีวิตและน้ำตา ภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ตลอดจนสภาพสิ่งก่อสร้างในอดีตจะถูกบันทึกเก็บรักษาไว้ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาถึงผลของการใช้กำลังเข้าประหัตประหาร ทำให้เกิดความสูญเสียที่ประเมินค่ามิได้ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองความแตกแยก ความสามัคคีของคนในชาติ มีเนื้อที่ประมาณ 191,875 ไร่ หรือ 307 ตารางกิโลเมตร

////////

แสดงความคิดเห็น