วันที่ 9 ก.ค. 2555 นางอมรรัตน์ มีแดง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะได้ พร้อมพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ และเจ้าอาวาสวัดพุทธธรรม และคระสงฆ์ จากประเทศเยอรมนี ได้เดินทางไปที่บ้านเอื้ออาทร เลขที่ 600/367 ม.3 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังทราบว่ามีครอบครัวหนึ่ง มีความเดือดร้อนอย่างหนัก ลูกสาวเป็นโรคพิการทางสมองมาตั้งแต่กำเนิด ฐานะทางบ้านยากจน พ่อบ้านต้องลาออกจากงานมาดูแลลูกสาว แม่ทำงานคนเดียวเงินเดือนก็ไม่พอค่าใช้จ่าย
จากการสอบถามทราบว่าครอบดังกล่าวมีนายวีชา ศรซี อายุ 32 ปี บ้านเดิมเลขที่ 139 ม.7 ต.บ้านแถม อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ส่วนภรรยาชื่อ นางศิริลักษณ์ เนียมชาวนา อายุ 31 ปี บ้านเดิมเลขที่ 72/4 ม.8 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยมีลูกสาววัย 3 ขวบ 9 เดือน นอนรักษาตัวอยู่บนที่นอนตลอดเวลา ต้องให้อ็อกซิเจนและคอยใช้เครื่องดูดเสมหะให้ลูกสาว สภาพเป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก
นางศิริลักษณ์ เปิดเผยว่า ตนกับสามีมีลูกสาวเพียงคนเดียว ช่วงที่ตั้งครรภ์ไม่มีปัญหาอะไรปกติดี กระทั่งช่วงท้อง 5 เดือนไปพบแพทย์ ปรากฏว่าตรวจลูกในท้องมีปัญหา จนคลอดออกมาเป็นลูกสาว ชื่อ ด.ญ.ชิษณุชา ศรซี หรือ น้องข้าวโพด มีอาการพิการทางสมอง ปอดติดเชื้อ ตาบอดข้างซ้าย ต้องให้อ็อกซิเจนตลอด 24 ชั่วโมง จากนั้น ตนกับสามีได้เลี้ยงดูน้องข้าวโพดตามมาตลอด ถึงแม้ลูกสาวไม่เคยรับรู้อะไรเลยก็ตาม ทุกวันนี้ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การเงินโรงพยาบาลรัตนเวช มีรายได้เดือนละ 8,900 บาท ส่วนสามีเคยทำงานอยู่ที่โรงแรมโกล์เดนแกรนด์ แต่ได้ลาออกมานานแล้ว ตั้งแต่คลอดลูกสาวออกมา เพราะต้องมาดูแลลูกสาวตลอดเวลา
ผู้เป็นแม่กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทุกวันนี้อยู่แบบขัดสนและลำบาก เนื่องจากต้องขายบ้านเอื้ออาทรของตนเองไป 160,000 บาท ที่อยู่ถัดไป 1 หลัง เพื่อนำเงินมาซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน ราคา 35,000 บาท เช่าถังออกซิเจนโรงงพยาบาลรัตนเวช ปกติบุคคลทั่วไปจะเช่าประมาณ 4,000 บาท แต่ตนเช่าราถูกกว่าเล็กน้อย นอกจากนั้นเครื่องดูดเสพหะยืมจากสถานีอนามัยชั่วคราว แต่ละวันตนต้องใช้จ่ายค่าน้ำออกซิเจนวันละ 780 บาท เป็นออกซิเจน 2 ถัง ค่าขนส่ง 160 บาท เงินที่ขายบ้านก็ไม่พอใช้จ่าย ต้องกู้ธนาคารออมสินเป็นหนี้อยู่ 100,000 บาท และเอารถไปเข้าไฟแนนท์เป็นหนี้อีก 100,000 บาท นำมาใช้รักษาลูกสาวจนหมด สุดท้ายต้องกู้เงินนอกระบบ อีก 100,000 บาท เสียดอกร้อยละสิบต่อเดือน ต้องส่งทุก
เดือนเช่นกัน
ปัจจุบันตนและครอบครัวมาอาศัยอยู่บ้านเอื้ออาทรของพี่ชายชั่วคราว เพราะไม่มีที่อยู่ โดยพี่ชายไปอยู่ต่างจังหวัด ตอนนี้พี่ชายบอกขายบ้านหลังนี้แล้ว ถ้าขายได้ตนและครอบครัวคงต้องหาที่อยู่ใหม่ หรือไปหาที่เช่าชั่วคราว และตนเองต้องทำงานทุกวัน ต้องให้สมีดูแลลูกแทน หากตนลาออกอีกคนคงไม่มีรายได้มาดูแลครอบครัว ต้องขอบขอบคุณนายกเหล่ากาชาดที่มาช่วยเหลือเบื้องต้น
นางอมรรัตน์ มีแดง นายกเหล่ากาชาดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากเหล่ากาชาดพิษณุโลกได้เข้ามาดู พบว่าเด็กป่วยสภาพแบบนี้มาตั้งแต่เกิด เหมือนกับรายที่เคยเจอที่ จ.นครสวรรค์ ต่อไปทางเหล่ากาชาดต้องเข้ามาดูแลทุกเดือน นอกจากนั้นจะทำเรื่องเสนอไปทาง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อช่วยเหลือโดยตรง เนื่องจากครอบครัวมีภาระหนักในเรื่องค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน และยังมีหนี้สินอีกจำนวนมาก เพราะต้องนำเงินมารักษาลูกสาว อนาคตอาจจะทูลเกล้าฯ ขอเป็นคนไข้ใน แต่ต้องทำไปตามขั้นตอน ให้ทาง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการต่อไป
สำหรับผู้ใจบุญ ต้องการช่วยเหลือครอบครัวของน้องข้าวโพด สามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ นางศิริลักษณ์ เนียมชาวนา ที่หมายเลข 084-6201317 หรือ สามารถบริจาคเงินได้ที ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาพิษณุโลก ชื่อบัญชี เพื่อดญ.ชิษณุชา ศรซี หมายเลขบัญชี 010272225075
ชมภาพวิดีโอกาชาดพิษณุโลกและคณะสงฆ์ไปช่วยครอบครัวน้อวข้าวโพด
แสดงความคิดเห็น
วันที่ 9 ก.ค. 2555 นางอมรรัตน์ มีแดง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะได้ พร้อมพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ และเจ้าอาวาสวัดพุทธธรรม และคระสงฆ์ จากประเทศเยอรมนี ได้เดินทางไปที่บ้านเอื้ออาทร เลขที่ 600/367 ม.3 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังทราบว่ามีครอบครัวหนึ่ง มีความเดือดร้อนอย่างหนัก ลูกสาวเป็นโรคพิ
เดือนเช่นกัน
